
คุณเคยเจอไหม เวลาร้องตามพนักงานทุกวันว่า “เอ๋อหมิง วันนี้คุณมาถึงบริษัทตอนกี่โมง?” หรือ “คุณเหม่ย คุณไปพบลูกค้าจริงๆ รึแค่ไปกินชาที่ร้าน?” — สุดท้ายกลับพบว่าสมุดลงชื่อมือเขียนของพนักงานแต่ละคนลายมือนี่แทบอ่านไม่ออก แถมยังมีคนแอบ “เช็คแทน” กันอีก จนเจ้าของกิจการเองยังแยกไม่ออกว่าใครตั้งใจทำงาน ใครแอบเก๊กอยู่
ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางในฮ่องกงมักเผชิญปัญหาเวลาทำงานที่ยืดหยุ่น พนักงานนอกสถานที่ หรือพนักงานพาร์ทไทม์ที่เข้าออกกันเป็นคลื่น ทำให้เครื่องสแกนนิ้วแบบดั้งเดิมแทบไร้ประโยชน์ เพราะใช้ได้กับคนดีเท่านั้น แต่หักล้างคนไม่ซื่อไม่ได้เลย
ถึงเวลาอัปเกรดแล้ว! ระบบเช็คชื่อผ่าน DingTalk ไม่เพียงแค่ระบุตำแหน่งผ่าน GPS ได้แบบเรียลไทม์ แต่ยังสามารถผูกไว้กับ Wi-Fi ของบริษัท เพื่อให้มั่นใจว่าพนักงานอยู่ในสำนักงานจริงๆ เท่านั้นจึงจะนับว่าเช็คชื่อสำเร็จ ที่เจ๋งที่สุดคือการตรวจสอบใบหน้าแบบเรียลไทม์ (Face Recognition) — แม้คุณจะแต่งตัวเลียนแบบหลิวเต๋อหัว แต่ก็หลอกตา AI ไม่ได้แน่นอน ปิดกั้นพฤติกรรม “เช็คแทน” ได้อย่างสิ้นเชิง หากมีการเช็คจากที่ผิดปกติ ระบบจะแจ้งเตือนทันที และผู้ดูแลระบบจะได้รับการแจ้งในเสี้ยววินาที เปรียบเสมือนติดตั้ง “กล้องวงจรปิดอิเล็กทรอนิกส์” ไว้ในองค์กร
ที่สำคัญที่สุด ตามกฎหมาย “พระราชบัญญัติแรงงาน” ของฮ่องกง เจ้าของกิจการต้องเก็บบันทึกเวลาทำงานอย่างน้อย 12 เดือน มิฉะนั้นอาจถูกปรับ! DingTalk เก็บข้อมูลการเช็คชื่อโดยอัตโนมัติ ทั้งถูกต้องตามกฎหมายและประหยัดแรงงาน ออกแบบมาเพื่อเจ้าของกิจการฮ่องกงโดยเฉพาะ ลองนึกภาพ: คนขับรถขนส่งถ่ายรูปด้วยมือถือเพียงครั้งเดียวก็เช็คชื่อเสร็จ พนักงานร้านอาหารพาร์ทไทม์ไม่ต้องเข้าแถวสแกนบัตร อีกทั้งหากพนักงานขายนอกสถานที่เดินเลยพื้นที่ที่กำหนดก็รู้ทันที — เทคโนโลยีไม่จำเป็นต้องซับซ้อน แต่ต้อง “ใช้จริงได้”!
การลงทะเบียนและตั้งค่าบัญชีองค์กร DingTalk ง่ายมาก
การลงทะเบียนและตั้งค่าบัญชีองค์กร DingTalk ง่ายมาก
การเปิดบริษัทก็เหมือนเปิดร้านชาไข่มุก คงไม่มีใครเปิดร้านโดยไม่มีป้ายชื่อร้านใช่ไหม? การใช้ DingTalk ขั้นตอนแรกคือ “ขอป้าย” — ลงทะเบียนบัญชีผู้ดูแลองค์กร! ขั้นตอนแรก ไปที่ App Store หรือ Google Play แล้วค้นหาคำว่า “DingTalk” ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันทางการ (จำไว้ว่าอย่ากดแอปปลอม มิฉะนั้นจะเจอปัญหาภายหลัง) เมื่อเปิดแอปฯ แล้ว เลือก “สร้างองค์กร” อย่าเผลอเลือก “บัญชีส่วนตัว” เด็ดขาด ไม่งั้นคุณอาจกลายเป็น “เจ้าของกิจการ + พนักงานทำความสะอาด + ฝ่ายไอที” ในคนเดียว แย่กว่าต้องทำงานสามกะ!
เมื่อกรอกข้อมูลบริษัท บริษัทในฮ่องกงต้องเตรียมเลขทะเบียนพาณิชย์ และเอกสารแสดงตัวตนของผู้รับผิดชอบ ระบบจะตรวจสอบข้อมูลอัตโนมัติ รวดเร็วกว่าการสมัครบัตร Octopus สำหรับบริษัท เมื่อยืนยันข้อมูลเสร็จสิ้น คุณจะกลายเป็น “ผู้ดูแลองค์กร” อย่างเป็นทางการ และสามารถเข้าสู่ “แผงควบคุมผู้ดูแล” เพื่อดำเนินการต่อได้ อะไรนะ? เข้าไม่เจอแผงควบคุมเหรอ? โอ้ คุณยังไม่ได้เปิดใช้งาน! อย่าลืมไปที่ “เวิร์กเบนช์” → “จัดการองค์กร” ในแอปฯ เพื่อเปิดสิทธิ์ ไม่งั้นก็เหมือนซื้อล็อกดิจิทัลแต่ใช้กระดาษทิชชูเปิด
ขั้นต่อไป สร้างโครงสร้างองค์กร ง่ายเหมือนแบ่งจานอาหาร: สร้างแผนกก่อน เช่น “ทีมหน้าร้าน”, “คลังสินค้า”, “ฝ่ายบัญชี” จากนั้นเพิ่มพนักงานทีละคน โดยใช้หมายเลขโทรศัพท์หรืออีเมลเพื่อเชิญ จุดสำคัญคือ รุ่นฟรีก็เพียงพอสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางแล้ว ไม่จำเป็นต้องรีบอัปเกรดเป็นแบบเสียเงิน! ข้อผิดพลาดทั่วไป เช่น ลืมตั้งผู้ดูแล หรือพนักงานเข้าผิดแผนก หรือบางคนใช้อีเมล Gmail ส่วนตัวแทนอีเมลบริษัท... โอ๊ย ปวดหัวจริงๆ!
ตั้งกฎการเช็คชื่อเฉพาะองค์กรได้ด้วยตัวเอง
“กฎการเช็คชื่อ” ต้องตั้งให้แม่นยำและชัดเจน ถึงจะบอกลา “ราชาแห่งการเก๊กงาน” ได้สำเร็จ! เมื่อเข้าสู่แผงควบคุมของ DingTalk โมดูล “การเช็คชื่อ” จะทำหน้าที่เหมือนหัวหน้ากะอิเล็กทรอนิกส์ของบริษัทคุณ — ฉลาด แต่ต้องสอนก่อน ขั้นแรก อย่าขี้เกียจตั้งสถานที่ทำงาน รองรับทั้ง Wi-Fi และรั้วเขต GPS ยกตัวอย่าง เช่น ร้านคุณอยู่ในมงก๊ก ให้ตั้งรัศมี 50 เมตร หากพนักงานออกไปกินข้าวนอกถนนแล้วแอบเช็คชื่อ? ระบบจะจับได้ทันที! มีหลายสำนักงาน? เพิ่มจุดได้หลายจุด และสามารถระบุได้ว่าแผนกไหนต้องไปที่ไหน
การตั้งเวลาต้องยืดหยุ่นถึงจะเหมาะกับการใช้งานจริง! ทำงาน 9 โมงเช้าถึง 6 โมงเย็น ตายตัวเกินไป? ตั้ง “เช็คชื่อยืดหยุ่น” ได้ เช่น เข้างานได้ระหว่าง 9.00–9.30 น. โดยไม่นับว่าสาย พนักงานแบบครึ่งวัน? ตั้งการเช็คชื่อแบบแบ่งช่วงได้ แม้แต่พักกลางวันก็ตั้งให้หักอัตโนมัติ 1.5 ชั่วโมงก็ได้ พนักงานกะสลับกันทำงานซับซ้อนกว่า? DingTalk รองรับตารางกะหลายรูปแบบ เปลี่ยนกะดึก-กะเช้าได้เพียงคลิกเดียว รวมถึงตั้งกฎการทำงานล่วงเวลาได้เอง — นับ OT ก็ต่อเมื่อเกิน 30 นาที เพื่อป้องกันไม่ให้มีคนแกล้งทำงานช้าเพื่อเบิกค่าล่วงเวลา
ข้อควรระวังสำคัญ: ต้องตั้งโซนเวลาให้แน่นอนที่ UTC+8 (เวลาฮ่องกง) มิฉะนั้นเจ้าของกิจการอาจเห็นพนักงาน “มาสายทุกวันสองชั่วโมง” กลายเป็นเรื่องใหญ่! ปฏิทินวันหยุดก็ต้องอัปเดตตามวันหยุดราชการทันที เพื่อหลีกเลี่ยงกรณีที่พนักงานถูกนับว่าขาดงานในวันเทศกาลไหว้พระจันทร์ คำแนะนำเล็กๆ: หลังตั้งกฎเสร็จ ผู้ดูแลควรใช้บัญชีทดสอบ “แกล้งเป็นพนักงาน” เช็คชื่อสักครั้ง เพื่อดูว่าข้อมูลถูกต้องไหม — ป้องกันดีกว่าแก้ อย่าให้วันแรกของการใช้งานกลายเป็นวันที่ต้องมาเป็นฝ่ายไอที!
คู่มือการใช้งานสำหรับพนักงานและคำถามยอดนิยม
“เจ้านายครับ ผมอยู่ในบริษัทจริงๆ ทำไมระบบถึงบอกว่าขาดการเช็คชื่อ?” อย่าเพิ่งร้อนตัว ไม่ใช่ DingTalk ที่แกล้งคุณ แต่คุณยังไม่ “เข้าใจกัน” ดีพอ! จากมุมมองพนักงาน ขั้นตอนแรกคือดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน DingTalk — ทั้ง iOS และ Android มีหน้าตาใกล้เคียงกันมาก ค้นหาคำว่า “DingTalk” แล้วติดตั้งได้เลย เมื่อเข้าสู่ระบบแล้ว ใช้รหัสเชิญของบริษัทเพื่อเข้าร่วมทีม ระบบจะผูกกฎการเช็คชื่อของคุณอัตโนมัติ (ก็คือกฎที่ผู้จัดการตั้งไว้ในหัวข้อก่อนหน้า) การเช็คชื่อครั้งแรก ง่ายเหมือนถ่ายเซลฟี่: กดปุ่ม “เช็คชื่อ” หากอยู่ในรัศมี Wi-Fi หรือ GPS ระบบจะส่งเสียง “ดีด!” พร้อมขึ้นว่าสำเร็จทันที!
เกิดเหตุฉุกเฉินจะทำอย่างไร? ไม่มีสัญญาณ? สามารถใช้การเช็คชื่อแบบออฟไลน์ก่อน แล้วเมื่อเข้าบริษัทระบบจะซิงค์ข้อมูลให้อัตโนมัติ ลืมเช็คชื่อ? อย่าพยายามเติมเอง ให้ใช้ฟังก์ชัน “ขอเช็คชื่อแทน” ผ่านกระบวนการอย่างถูกต้อง ความซื่อสัตย์คืออาวุธลับ เปลี่ยนมือถือ? แค่ล็อกอินใหม่ ข้อมูลทั้งหมดจะถูกสำรองบนระบบคลาวด์ ไม่หายไป คำถามยอดนิยม: “ให้เพื่อนช่วยเช็คแทนได้ไหม?” — ฝันไปเถอะ! DingTalk มีระบบป้องกันการเช็คชื่อแทน ถ่ายรูปยืนยันแบบสุ่ม + เปรียบเทียบตำแหน่ง ใครเช็คแทนก็เท่ากับเปิดโปงตัวเอง ข้อมูลจะส่งไปจีนแผ่นดินใหญ่ไหม? วางใจได้ สามารถเลือกเก็บข้อมูลในเซิร์ฟเวอร์ที่ตั้งในฮ่องกงได้ เจ้านายรู้ไหมว่าผมกลับกี่โมง? แน่นอนอยู่แล้ว ไม่งั้นจะป้องกันการเก๊กงานได้อย่างไร? แต่ใช้ตามกฎหมาย ไม่ได้แอบดูว่าคุณแอบดูซีรีส์ในห้องพักน้ำ 30 นาทีแน่นอน!
การใช้งานขั้นสูงและคำแนะนำป้องกันข้อผิดพลาด
ถึงเวลาใช้ฟังก์ชันขั้นสูงแล้ว! อย่าคิดว่าการเช็คชื่อผ่าน DingTalk แค่ “ดีด” แล้วจบ ผู้ประกอบการชาญฉลาดในฮ่องกงใช้มันเป็นเครื่องมือสำนักงานอัตโนมัติไปนานแล้ว ลองนึกภาพ: สิ้นเดือนไม่ต้องมานั่งคำนวณการมาสายหรือเลิกงานก่อนด้วยตนเอง อีกต่อไป ระบบจะสร้างรายงาน Excel ให้อัตโนมัติ; เมื่อส่งใบลา ระบบจะเปรียบเทียบข้อมูลการเช็คชื่อทันทีเพื่อตรวจจับความผิดปกติ; ที่โหดกว่านั้น สามารถเชื่อมต่อกับระบบเงินเดือนได้โดยตรง จำนวนนาทีที่ขาดงานจะแปลงเป็นยอดเงินหักทันที — เทคโนโลยีที่ประหยัดไม่ใช่แค่เวลา แต่คือเส้นผมของคุณด้วย!
แต่ต้องระวังกับดัก! เคยมีบริษัทตั้งรัศมีการเช็คชื่อครอบคลุมทั้งเกาลูน ผลคือพนักงานอยู่ที่บ้านก็ “มาทำงานตรงเวลา” ได้ บางบริษัทไม่ตรวจสอบข้อมูลเป็นเวลาครึ่งปี จึงพบว่าพนักงานคนหนึ่ง “เช็คชื่อทุกวัน” แต่ไปนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ที่ร้านชา ที่แย่ที่สุดคือลืมสอนแผนกบัญชี (ป้าบัญชี) วิธีใช้ระบบ เธอยังคงใช้สมุดจดมือ และถามว่า “ตัว Dinging ทำไมไม่ส่งเสียงอะไรเลย?”
ต้องระวังข้อจำกัดทางกฎหมายด้วย! ตาม “พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” ของฮ่องกง การติดตามตำแหน่งพนักงานต้องได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างชัดเจน ห้ามแอบทำโดยไม่บอกกล่าว แนะนำให้ระบุวัตถุประสงค์ไว้ในสัญญาจ้างงานหรือนโยบายภายใน เพื่อหลีกเลี่ยงประเด็นเรื่องสิทธิมนุษยชน นอกจากนี้ ข้อมูลสามารถเลือกเก็บในเซิร์ฟเวอร์สิงคโปร์ได้ ไม่ต้องกังวลเรื่องกฎหมายจีนแผ่นดินใหญ่
ท้ายที่สุด ขอเสนอรายการป้องกันข้อผิดพลาด 3 ข้อ: หนึ่ง ตั้งรัศมีตำแหน่งอย่างน้อย 50 เมตรให้แม่นยำ; สอง ทุกเดือน ให้ฝ่ายบุคคลดาวน์โหลดข้อมูลมา “ตรวจแบบไม่แจ้งล่วงหน้า”; สาม อบรมพนักงานใหม่ให้ดูตัวอย่างการเช็คชื่อทั้งกระบวนการ เมื่อทำทั้งหมดนี้เสร็จ คุณจะกลายเป็นคนที่ “เท่ที่สุดในบริษัท” อย่างแน่นอน!
We dedicated to serving clients with professional DingTalk solutions. If you'd like to learn more about DingTalk platform applications, feel free to contact our online customer service or email at
Using DingTalk: Before & After
Before
- × Team Chaos: Team members are all busy with their own tasks, standards are inconsistent, and the more communication there is, the more chaotic things become, leading to decreased motivation.
- × Info Silos: Important information is scattered across WhatsApp/group chats, emails, Excel spreadsheets, and numerous apps, often resulting in lost, missed, or misdirected messages.
- × Manual Workflow: Tasks are still handled manually: approvals, scheduling, repair requests, store visits, and reports are all slow, hindering frontline responsiveness.
- × Admin Burden: Clocking in, leave requests, overtime, and payroll are handled in different systems or calculated using spreadsheets, leading to time-consuming statistics and errors.
After
- ✓ Unified Platform: By using a unified platform to bring people and tasks together, communication flows smoothly, collaboration improves, and turnover rates are more easily reduced.
- ✓ Official Channel: Information has an "official channel": whoever is entitled to see it can see it, it can be tracked and reviewed, and there's no fear of messages being skipped.
- ✓ Digital Agility: Processes run online: approvals are faster, tasks are clearer, and store/on-site feedback is more timely, directly improving overall efficiency.
- ✓ Automated HR: Clocking in, leave requests, and overtime are automatically summarized, and attendance reports can be exported with one click for easy payroll calculation.
Operate smarter, spend less
Streamline ops, reduce costs, and keep HQ and frontline in sync—all in one platform.
9.5x
Operational efficiency
72%
Cost savings
35%
Faster team syncs
Want to a Free Trial? Please book our Demo meeting with our AI specilist as below link:
https://www.dingtalk-global.com/contact

ภาษาไทย
English
اللغة العربية
Bahasa Indonesia
Bahasa Melayu
Tiếng Việt 