
ระบบวิเคราะห์จำนวนลูกค้าด้วยปัญญาประดิษฐ์ของ DingTalk คืออะไร? พูดง่ายๆ ก็คือ "สมองดิจิทัล" ของศูนย์การค้า ที่รับหน้าที่สังเกต คิดวิเคราะห์ และคาดการณ์พฤติกรรมของลูกค้าทุกคนที่เดินเข้ามา คุณอาจคิดว่า "มันก็แค่นับจำนวนคนใช่ไหม?" แต่มันไม่ใช่การนับแบบเดิมๆ ที่ต้องอาศัยคนไปนั่งจดจ้องดูจนตาลาย ระบบวิเคราะห์จำนวนลูกค้าด้วย AI ของ DingTalk ผสานเทคโนโลยีการประมวลผลภาพ การเรียนรู้เชิงลึก (Deep Learning) และการประมวลผลข้อมูลแบบเอจ (Edge Computing) ทำให้กล้องวงจรปิดไม่ได้แค่บันทึกภาพ แต่สามารถ "เข้าใจ" รูปแบบการเคลื่อนไหวของผู้คนได้
เมื่อลูกค้าเดินเข้ามาในศูนย์การค้า AI จะระบุอายุ เพศ (โปรดสังเกต: ข้อมูลเป็นแบบไม่ระบุชื่ออย่างสมบูรณ์ ไม่ละเมิดความเป็นส่วนตัว) และวิเคราะห์เส้นทางการเดินหรือบริเวณที่มีคนหยุดพักมากที่สุดได้ทันที ยกตัวอย่าง เช่น ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งพบว่าในช่วงบ่ายวันหยุด สตรีใช้เวลานานในการเดินเล่นในโซนเครื่องสำอาง ระบบก็จะแจ้งเตือนทันทีเพื่อให้ทางแผนกเพิ่มโปรโมชั่นหรือปรับการจัดวางสินค้า นอกจากนี้ ระบบยังสามารถแยกแยะระหว่าง "เดินผ่าน" กับ "เดินเข้าร้าน" ได้อีกด้วย ซึ่งหมายความว่า ไม่จำเป็นต้องนับคนที่เดินผ่านเฉยๆ เป็นลูกค้าที่มีศักยภาพอีกต่อไป ความแม่นยำจึงเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ระบบยังสามารถเชื่อมโยงข้อมูลจากไวไฟภายในศูนย์การค้าและข้อมูลยอดขาย POS เข้าด้วยกัน เพื่อสร้างแผนที่การไหลของผู้คนแบบเรียลไทม์ ลองนึกภาพดูว่า ผู้จัดการไม่จำเป็นต้องเดินตรวจเองก็สามารถรู้ได้ว่าชั้นไหนมีคนพลุกพล่าน หรือพื้นที่ใดเงียบเหงาเหมือนลานจอดรถตอนเที่ยงคืน เมื่อมีข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ ศูนย์การค้าจะไม่ต้องรอให้ลูกค้ามาเอง被动ๆ อีกต่อไป แต่สามารถออกแบบประสบการณ์ได้อย่างกระตือรือร้น โดยให้ข้อมูลเล่าเรื่องราวว่า "ใคร มาเมื่อไหร่ อยู่ที่ไหน และทำอะไร"
ความสำคัญของโมเดลข้อมูล
โมเดลข้อมูล ฟังดูเหมือนวิศวกรใส่แว่นหลายคนกำลังเขียนสมการยากๆ บนไวท์บอร์ดใช่ไหม? อย่ากลัว มันคือ "สมอง" ที่อยู่เบื้องหลังระบบวิเคราะห์จำนวนลูกค้าด้วย AI ของ DingTalk และสมองนี้ไม่เพียงฉลาด แต่ยังตลกได้ด้วย—อย่างน้อยก็ในเรื่องของการช่วยให้ห้างสรรพสินค้าทำกำไร มันไม่เคยเงียบเหงาเลย
ในระบบของ DingTalk โมเดลข้อมูลไม่ใช่แค่การคำนวณง่ายๆ แต่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการทำนายที่ผ่านการฝึกฝนด้วย "การเรียนรู้ของเครื่อง" (Machine Learning) จากข้อมูลจำนวนผู้คนที่เข้า-ออก ระยะเวลาที่พัก หรือการกระจายตัวของพื้นที่ยอดนิยมที่สะสมมาเป็นเวลานาน ตัวอย่างเช่น โมเดลการทำนาย เหมือนนักพยากรณ์อากาศ ที่สามารถบอกคุณได้ว่าพรุ่งนี้ช่วงบ่ายสามโมงชั้นไหนจะมีคนแน่นขนัด เพื่อให้ผู้จัดการสามารถเตรียมพนักงานหรือปรับเนื้อหาการประกาศล่วงหน้า ในขณะที่ โมเดลการจำแนกประเภท ก็คล้ายพนักงานหน้าประตูที่มีความจำยอดเยี่ยม มอง一眼ก็แยกแยะได้ว่าคนนั้นเป็น "คู่รักมาเดท" "คนทำงานเร่งรีบ" หรือ "ครอบครัวพาลูกมาเที่ยว" ช่วยให้ศูนย์การค้าสามารถโฆษณาหรือจัดวางร้านค้าได้อย่างแม่นยำ
ที่เจ๋งกว่านั้นคือ โมเดลเหล่านี้จะ "ยิ่งใช้ยิ่งฉลาดขึ้น" ทุกครั้งที่มีข้อมูลใหม่เข้ามา มันจะอัปเกรดตัวเองเงียบๆ เหมือนเล่นเกมแล้วได้เลเวลอัป บริษัทห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งเคยใช้โมเดลตรวจจับความผิดปกติ พบว่าช่วงเย็นวันศุกร์มีคนมายืนรวมกันที่ห้องน้ำจำนวนมาก เมื่อตรวจสอบพบว่าเป็นเพราะป้ายบอกทางผิด! หลังแก้ไขแล้ว ความพึงพอใจของลูกค้าก็พุ่งสูงขึ้นทันที นี่ไม่ใช่เวทมนตร์ แต่เป็นคณิตศาสตร์ที่กำลังเต้นรำ
ตัวอย่างการประยุกต์ใช้งานในศูนย์การค้า
"คนมาจากไหน? เงินไปที่ไหน?" คำถามนี้ไม่ใช่แค่คำถามปรัชญา แต่เป็นคำถามสำคัญที่ศูนย์การค้าทุกแห่งถามตัวเองทุกวัน อย่ากังวล ระบบวิเคราะห์จำนวนลูกค้าด้วย AI ของ DingTalk ไม่ได้มาเพื่อเทศน์ธรรมะ แต่มาพร้อมข้อมูลเป็นเชื้อเพลิง และโมเดลเป็นเครื่องทำนายดวงชะตา—แถมยังทายแม่นอีกด้วย!
ยกตัวอย่างเช่น ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ในไทเปที่นำระบบของ DingTalk มาใช้ ผ่าน โมเดลวิเคราะห์พื้นที่ยอดนิยม พบว่าในช่วงกลางวัน โซนร้านอาหารจะมีคนพลุกพล่าน แต่ชั้นสามที่เป็นโซนเสื้อผ้าผู้หญิงกลับเงียบเหงาเหมือนถูกสาป ระบบใช้อัลกอริทึมติดตามเส้นทางการเดิน วิเคราะห์ต่อ จึงพบว่าตำแหน่งลิฟต์ทำให้ลูกค้า "เผลาก้าวข้ามชั้นสามไปโดยไม่รู้ตัว" หลังจากปรับป้ายนำทางและจุดโปรโมชั่น ยอดขายชั้นสามก็เพิ่มขึ้น 37% ภายในสามเดือน—แสดงว่า ไม่ใช่เสื้อผ้าไม่สวย แต่เป็นเพราะทางเดินไม่ดีต่างหาก!
ส่วนห้างในชุมชนแห่งหนึ่งที่เมืองไถจง เผชิญกับปัญหา "วันหยุดคนแน่น วันธรรมดาไม่มีใคร" ซึ่งเป็นปัญหาทั่วไป ระบบ DingTalk AI ใช้โมเดลการทำนายตามลำดับเวลา คาดการณ์ช่วงเวลาที่ผู้สูงอายุเข้ามาใช้บริการมากที่สุดในวันธรรมดา จึงจัดช่วงเวลา "เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ" พร้อมส่วนลดกาแฟและกิจกรรมเสวนาสุขภาพ ทำให้พื้นที่ว่างกลายเป็นรายได้
ที่เจ๋งกว่านั้น แม้แต่ห้างใต้ดินก็สามารถสร้างสรรค์ได้ ผ่าน ระบบแจ้งเตือนความหนาแน่นของผู้คนแบบเรียลไทม์ เมื่อมีคนมายืนรวมกันหน้าแผงเกิน 8 คน ฝ่ายจัดการจะได้รับแจ้งทันที เพื่อส่งพนักงานเพิ่มหรือเปิดเสียงประกาศจัดแถว—ไม่ต้องตะโกนอีกต่อไป เทคโนโลยีทำให้ความแออัดมีศักดิ์ศรี
ขั้นตอนการดำเนินการและความท้าทาย
"ดิงดอง! มีข้อมูลจำนวนลูกค้าใหม่รอการประมวลผล!" เมื่อศูนย์การค้าตัดสินใจใช้ระบบวิเคราะห์จำนวนลูกค้าด้วย AI ของ DingTalk ไม่ใช่แค่กดปุ่มแล้วจะฉลาดขึ้นทันที ขั้นตอนแรก การเลือกระบบก็เหมือนการเลือกคู่ครอง—อย่าดูแค่ภายนอก (ฟีเจอร์เยอะ) ต้องพิจารณาความเข้ากันได้ (สามารถผสานกับระบบ POS และกล้องวงจรปิดเดิมได้ลื่นไหลหรือไม่) หากเลือกผิด ทุกความพยายามต่อจากนั้นก็ไร้ประโยชน์
ต่อมาคืองานใหญ่อย่างการรวบรวมข้อมูล: ต้องวางตำแหน่งกล้องอย่างแม่นยำ เพื่อหลีกเลี่ยงจุดบอดหรือ "พื้นที่มืด" และต้องมั่นใจว่าคุณภาพภาพเพียงพอ มิฉะนั้น AI อาจเห็นเป็น "นิทรรศการศิลปะร่างคนเบลอๆ" ยังไม่นับประเด็นความเป็นส่วนตัว—ลูกค้าไม่ใช่หนูทดลอง ต้องทำให้ข้อมูลไม่ระบุตัวตน แปลงทุกคนให้เป็น "จุดความร้อนที่เคลื่อนไหว" แทนบุคคลที่ระบุได้ เพื่อให้ถูกกฎหมายและปลอดภัย
เมื่อเข้าสู่ขั้นตอนการฝึกอบรมโมเดล AI ไม่ได้เกิดมาพร้อมความสามารถในการนับคน ต้อง "ป้อน" ข้อมูลย้อนหลังให้มัน ปรับแต่งพารามิเตอร์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เหมือนการสอนแมวนั่ง ต้องใช้ความอดทน ความท้าทายทั่วไปคือแสงที่เปลี่ยนแปลงทำให้ระบุผิดพลาด หรือการนับทับซ้อนกันเมื่อมีคนจำนวนมาก ซึ่งต้องใช้อัลกอริทึมชดเชยการบัง (Occlusion Compensation) จากการเรียนรู้เชิงลึกเข้ามาช่วย
สุดท้าย การวิเคราะห์ผลลัพธ์ คือหัวใจสำคัญ: รายงานไม่ควรเป็นแค่กองตัวเลข ต้องสามารถบอกผู้บริหารได้ว่า "ทำไมชั้นสามถึงเงียบในช่วงบ่ายวันศุกร์" หากระบบบอกแค่ว่า "คนน้อย" ก็คงดีไม่ต่างจากการจ้างพนักงานไปนั่งจดเอง คุณค่าที่แท้จริงคือการขุดค้นรูปแบบพฤติกรรมจากข้อมูล และเสนอแนะแนวทางปฏิบัติได้—这才是让数据说话的正确姿势
แนวโน้มและการพัฒนาในอนาคต
แนวโน้มและการพัฒนาในอนาคต: เมื่อศูนย์การค้าไม่ใช่แค่สถานที่ขายของอีกต่อไป แต่กลายเป็นเวทีที่ข้อมูลกำลังเต้นระบำ ระบบวิเคราะห์จำนวนลูกค้าด้วย AI ของ DingTalk ก็กำลังค่อยๆ อัปเกรดจาก "นับคน" เป็น "อ่านใจคน" อย่าคิดอีกต่อไปว่ามันแค่สถิติจำนวนคนที่เข้า-ออก ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ระบบนี้อาจเดาได้ว่าคุณแวะร้านชาไข่มุกที่ชั้นสามเพราะกำลังมีปัญหารักหรือเพื่อนร่วมงานเลี้ยง ได้แม่นยำถึงแปดเก้าสิบเปอร์เซ็นต์!
เมื่อการประมวลผลแบบเอจและ 5G แพร่หลายมากขึ้น โมเดล AI จะสามารถติดตั้งและทำงานได้เร็วขึ้น เบาขึ้น ลดความหน่วงและเพิ่มความแม่นยำ ลองนึกภาพดูว่า ลูกค้าเพิ่งก้าวเข้ามาในศูนย์การค้า ระบบก็ส่งคูปองเฉพาะตัวให้ทันที โดยอิงจากเส้นทางย้อนหลังและพื้นที่ที่มีคนหนาแน่น—ไม่ใช่การส่งสุ่ม แต่เป็น "คูปองที่คุณอยากเห็นที่สุด"
โมเดลข้อมูลจะไม่ได้มองแค่ "คนมาจากไหน ไปไหน" อีกต่อไป แต่จะผสานการรู้จำอารมณ์ จังหวะการเดิน และปัจจัยสภาพอากาศ เพื่อสร้าง "ดัชนีอารมณ์ขณะช้อปปิ้ง" หากผู้บริหารศูนย์การค้าใช้การวิเคราะห์เชิงคาดการณ์เหล่านี้อย่างเหมาะสม ก็สามารถจัดสรรแรงงานบริการล่วงหน้า ปรับโครงสร้างร้านค้าแบบไดนามิก หรือแม้กระทั่งนำเสนอนวัตกรรมประสบการณ์การใช้จ่ายที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล
ขอแนะนำให้คุณอย่ารอให้เทคโนโลยีทันก่อนค่อยลงมือ ควรเริ่มปลูกฝังวัฒนธรรมการทำงานที่ "คิดด้วยข้อมูล" ตั้งแต่วันนี้ เพราะการแข่งขันในศูนย์การค้าในอนาคต จะไม่ใช่ใครมีแบรนด์เยอะกว่า แต่ใครเข้าใจเรื่องราวเบื้องหลังการไหลของผู้คนได้ดีกว่าต่างหาก
We dedicated to serving clients with professional DingTalk solutions. If you'd like to learn more about DingTalk platform applications, feel free to contact our online customer service or email at

ภาษาไทย
English
اللغة العربية
Bahasa Indonesia
Bahasa Melayu
Tiếng Việt
简体中文 