แนวโน้มใหม่ของการทำงานจากระยะไกล

คุณเคยนั่งรถไฟใต้ดินตอนตีเจ็ดครึ่ง ถือกาแฟกับกระเป๋าเอกสาร แล้วติดอยู่ที่สถานีกวนถงใช่ไหม? การเดินทางไปทำงานของคนฮ่องกงเป็นเรื่องที่ทุกข์มานาน แต่ตอนนี้บริษัท越来越多เลือก "หนีไป" — ไม่ใช่หนีจริงๆ แต่เปลี่ยนมาทำงานจากที่บ้าน! จากออฟฟิศมาที่โซฟา จากเครื่องสแกนเวลาเป็นการประชุมผ่าน Zoom การทำงานจากระยะไกลไม่ใช่แค่ทางออกชั่วคราวในช่วงโควิดอีกต่อไป แต่มันคือการปฏิวัติเงียบที่เกิดขึ้นในสำนักงาน ประหยัดเวลาหนึ่งชั่วโมงที่เคยใช้เดินทางเข้าเกาะฮ่องกง ทำให้นอนเพิ่มได้อีกยี่สิบนาที ทานอาหารเช้ากับลูก หรือแม้แต่ส่งรายงานที่ล่าช้าสามวันได้ทันเวลา ช่างเป็นสวรรค์ของพนักงานเลยทีเดียว

แต่สวรรค์ก็มียุง — สื่อสารผ่านข้อความสิบครั้งก็ยังไม่ได้รับคำตอบ หัวหน้ามองไม่เห็นความพยายามของคุณ จึงคิดว่าคุณแกล้งเซ็ง งานเลี้ยงทีมกลายเป็นภาพโปรไฟล์บนจอเรียงกันเป็นแถว ความสามัคคีอาจจืดชืดกว่าน้ำมะนาวเย็นจากร้านชาข้างถนนอีก ยิ่งไปกว่านั้น การบริหารจัดการก็ยากขึ้น จะทำยังไงให้การทำงานจากที่บ้าน (WFH) ไม่กลายเป็น "วีคเอนด์ โฮม ฟรี"? จะจัดการคำขอฉุกเฉินโดยไม่ต้องโทรหาสิบสายได้อย่างไร? ปัญหาเหล่านี้ทำให้หัวหน้าหลายคนนอนไม่หลับ ด้วยเหตุนี้ การปรับเปลี่ยนสู่ดิจิทัลจึงไม่ใช่แค่คำพูดสวยหรูอีกต่อไป แต่กลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดำรงอยู่ และหัวใจสำคัญก็คือระบบอนุมัติที่ราบรื่นและมีประสิทธิภาพ เพื่อให้การทำงานระยะไกลไม่ต้องอาศัยการคาดเดา การตะโกน หรือโชคช่วย



ระบบการอนุมัติของ DingTalk คืออะไร

ระบบการอนุมัติของ DingTalk คืออะไร? พูดง่ายๆ ก็คือ เจ้านายกับเลขาที่รวมเป็นหนึ่งเดียวในโลกดิจิทัล ที่ไม่เคยมาสาย และทำงานตลอด 365 วัน! ในเมืองฮ่องกงที่จังหวะชีวิตเร็วแบบนี้ การอนุมัติด้วยกระดาษแบบดั้งเดิมช่างช้าเหมือนภาพเคลื่อนไหวแบบสโลว์โมชั่น — คุณส่งใบลา หัวหน้าเดินเล่นอยู่ที่ห้องพักพนักงาน กว่าจะเห็นก็เกือบหมดวันลาแล้ว แต่พอใช้ระบบการอนุมัติของ DingTalk การขอลาจะเร็วกว่าการสั่งอาหารส่งถึงบ้านอีก!

หลังจากเข้าสู่ DingTalk ให้เปิดโมดูล "การอนุมัติ" เลือก "ขอลา" "เบิกค่าใช้จ่าย" หรือ "สั่งซื้อ" กรอกแบบฟอร์มแล้วกดส่งเพียงครั้งเดียว ระบบจะแจ้งเตือนหัวหน้าทันที ที่เจ๋งกว่านั้นคือ รองรับการตั้งค่าลำดับการอนุมัติเองได้ — อยากให้ฝ่ายบัญชี ผู้จัดการแผนก และเจ้านายตรวจสอบตามลำดับสามขั้นตอนใช่ไหม? แค่ตั้งกฎไว้ ระบบจะส่งต่ออัตโนมัติ ไม่ต้องวิ่งไล่ตามใครอีกต่อไป เมื่อเบิกค่าใช้จ่ายก็อัปโหลดใบเสร็จ ฝ่ายการเงินตรวจสอบออนไลน์ สถานะการชำระเงินดูได้ชัดเจน ไม่ต้องถามอีกว่า "เงินถึงยัง?"

กระบวนการทั้งหมดง่ายเสียจนแทบไม่อยากเชื่อ: เพียงห้าขั้นตอนก็จบ ตั้งแต่กรอกแบบฟอร์มจนได้รับการอนุมัติ สามารถติดตามได้ทุกขั้นตอน มีประวัติบันทึกชัดเจน แม้แต่ "ใครเป็นคนทำให้ขั้นตอนติดขัด" ก็ระบุตำแหน่งได้แม่นยำ เพิ่มประสิทธิภาพไม่ใช่แค่คำพูด แต่คือความรู้สึกจริงที่ได้เวลาคืนมาเท่ากับสองถ้วยกาแฟต่อวัน นี่ไม่ใช่แค่การอัปเกรดเครื่องมือ แต่เป็นก้าวแรกของการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลในสำนักงาน — เก็บกระดาษใส่ลิ้นชักแห่งประวัติศาสตร์ แล้วปล่อยให้งานไหลลื่นผ่านปลายนิ้ว



การประยุกต์ใช้ระบบการอนุมัติของ DingTalk ในการทำงานจากระยะไกล

"หัวหน้าครับ ผมส่งใบลามาแล้วนะ หัวหน้าเห็นยัง?" — ประโยคนี้เคยเป็นบทสนทนาธรรมดาในสำนักงานฮ่องกง โดยเฉพาะเมื่อทำงานจากที่บ้าน ช่องทางสื่อสารก็เหมือนโทรหาตัวเองในอนาคต โทรไปแล้วไม่มีใครรับ แต่ตั้งแต่ระบบการอนุมัติของ DingTalk เข้ามาในโลกของการทำงานระยะไกล ฟังก์ชันการแจ้งเตือนทันทีก็เหมือนเลขาส่วนตัวที่ไม่เคยหยุดงาน แค่ส่งคำขอ โทรศัพท์หัวหน้าก็ดัง "ติ๊ง!" ทันที ไม่มีทางแกล้งไม่เห็นอีกต่อไป การประชุมออนไลน์และการแชร์ไฟล์ก็เป็นทีมเวิร์กที่ยอดเยี่ยม ระหว่างประชุมสามารถเปิดใบเบิกค่าใช้จ่ายขึ้นมาได้ทันที ทุกคนดูข้อมูลชุดเดียวกัน โต้แย้งกันอย่างเข้าใจตรงกัน ไม่ต้องสงสัยอีกว่าเพื่อนร่วมงานแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจ Excel หรือเปล่า

หัวหน้าทุกคนตกหลุมรักกระบวนการอนุมัติอัตโนมัติ เพราะคำขอซื้อที่เคยต้องใช้เวลาสามวัน ตอนนี้เสร็จภายในสามนาที ระบบส่งต่อและจัดเก็บอัตโนมัติ แถมยังสร้างกราฟสถิติให้ดูด้วย หัวหน้าอยากดูแนวโน้มการลาเดือนที่แล้ว? คลิกเดียวก็ได้ข้อมูลทันที ที่เจ๋งกว่านั้นคือการซิงค์ข้อมูลข้ามอุปกรณ์ ไม่ว่าคุณจะใช้คอมพิวเตอร์ที่บริษัท iPad ที่บ้าน หรือมือถือที่แอบเช็กงานระหว่างนั่งรถไฟใต้ดิน สถานะการอนุมัติจะตามคุณไปทุกที่ ทำให้เกิดสถานการณ์ "นั่งอยู่ที่บ้าน แต่งานเดินหน้าอยู่บนคลาวด์"

DingTalk ไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่คือกฎของการอยู่รอดในการทำงานระยะไกล — เปลี่ยนความยุ่งเหยิงให้เป็นระเบียบ เปลี่ยนความล่าช้าให้มีประสิทธิภาพ แม้แต่หัวหน้าก็กลายเป็นมนุษย์ที่ตอบข้อความทันเวลา



ความสำคัญของการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล

คุณยังคงเขียนใบลาด้วยมือ แล้ววิ่งรอบอาคารเพื่อหาลายเซ็นหัวหน้าอยู่หรือเปล่า? ตื่นได้แล้ว! สำนักงานในฮ่องกงควรจะเลิกยุค "มาราธอนการเก็บแสตมป์" ได้แล้ว การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลไม่ใช่แนวโน้มในอนาคต แต่คือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน — มันเหมือน Wi-Fi ถ้าไม่มีก็ทำงานปกติไม่ได้เลย โดยเฉพาะในยุคที่การทำงานจากระยะไกลกลายเป็นเรื่องปกติ หากบริษัทยังติดอยู่กับกระบวนการทำงานด้วยกระดาษและการส่งเมลกลับไปกลับมา ความสามารถในการแข่งขันก็จะลดลงช้าๆ เหมือนลิฟต์ที่ค่อยๆ ลงไปทีละชั้น

ประโยชน์ของการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลไม่ใช่แค่คำพูดสวยหรู ลองนึกภาพ: ไม่ต้องรอให้หัวหน้ากลับมาที่บริษัทเพื่ออนุมัติ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทันที ต้นทุนดำเนินงานลดลงเงียบๆ แม้แต่ความพึงพอใจของพนักงานก็เพิ่มขึ้นอย่างเงียบๆ นี่ไม่ใช่เวทมนตร์ แต่คือชีวิตประจำวันที่ได้รับพลังจากเทคโนโลยี บริษัทการเงินแห่งหนึ่งนำระบบการอนุมัติของ DingTalk มาใช้ ทำให้การตรวจสอบการเบิกเงินลดจากสามวันเหลือวันครึ่ง ตัดเวลาลงครึ่งหนึ่งโดยตรง อีกบริษัทค้าปลีกหนึ่งใช้กระบวนการบริการลูกค้าแบบดิจิทัล ทำให้ความพึงพอใจเพิ่มขึ้นถึงสามสิบเปอร์เซ็นต์ ช่างเป็นรางวัลที่คุ้มค่ากว่าถูกรางวัลที่หนึ่งอีก

ที่เจ๋งกว่านั้นคือ การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ไม่เพียงแค่ประหยัดเวลาและแรงงาน แต่ยังเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ธุรกิจปรับตัวได้อย่างยืดหยุ่น เมื่อตลาดเปลี่ยนแปลง คนอื่นยังประชุมกันอยู่ ทีมของคุณก็ตัดสินใจไปแล้วด้วยการวิเคราะห์ข้อมูล — นี่คือพลังเหนือมนุษย์ที่ได้จากการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล แทนที่จะถามว่า "ทำไมต้องเปลี่ยน?" ควรจะถามว่า "ยังจะทนช้าไปอีกนานแค่ไหน?"



ขั้นตอนการดำเนินการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล

คำว่า "การเปลี่ยนแปลง" ฟังดูยิ่งใหญ่ แต่จริงๆ แล้วมันก็เหมือนสอนแม่ใช้ WhatsApp — ตอนแรกท่านคิดว่าการคอลวิดีโอคือเวทมนตร์ แต่สุดท้ายกลับส่งเสียงวิดีโอมาด่าคุณเองว่า "ทำไมไม่กลับบ้านมากินข้าว!" การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลไม่ใช่งานโชว์เวทมนตร์ แต่เป็น "การอัปเกรดธุรกิจแบบต่อเนื่อง" ขั้นตอนแรก อย่าเพิ่งรีบซื้อเครื่องมือ ให้นั่งลงประเมินสภาพปัจจุบันของบริษัทให้ดีก่อน: โต๊ะเต็มไปด้วยเอกสารขออนุมัติ? ใบลาหายไปในอวกาศ? ลายเซ็นของเจ้านายรอช้ากว่าการลงจอดดวงจันทร์? เหล่านี้คือ "ซากดึกดำบรรพ์" ก่อนยุคดิจิทัล

ขั้นตอนต่อไป ห้ามวางแผนแบบเขียนเป้าหมายปีใหม่ — คำว่า "ปีนี้จะขยันทำงาน" ก็เท่ากับไม่ได้พูดอะไร ต้องชัดเจน: ภายในสามเดือน ให้ย้ายกระบวนการทำงาน 90% ขึ้นมาออนไลน์ ภายในหกเดือน ครอบคลุมการใช้งานทุกอย่างผ่านมือถือ จากนั้น เลือกเครื่องมืออย่างชาญฉลาด DingTalk ไม่ใช่แค่แอปแชท ระบบการอนุมัติของมันสามารถกำหนดเองได้ ติดตามได้ และเตือนหัวหน้าให้เซ็นเอกสารได้อัตโนมัติ ช่างเป็นพระเอกของคนขี้เกียจและคนที่งานยุ่งมาก

การอบรมพนักงานห้ามจัดแค่สัมมนาครั้งเดียวแล้วจบ ต้องเหมือนการตามละครซีรีส์: สอนสั้นๆ สัปดาห์ละครั้ง จัดเกมจำลองการอนุมัติรายเดือน หรือแม้แต่ตั้งรางวัล "พนักงานดิจิทัลดีเด่น" พร้อมรางวัลกาแฟหนึ่งแก้ว สุดท้าย การเปลี่ยนแปลงไม่ใช่เรื่องครั้งเดียวจบ ต้องทบทวนกระบวนการอย่างสม่ำเสมอ รับฟังเสียงจากพนักงาน เพราะคนที่ใช้ระบบจริงๆ คือพวกเขา ไม่ใช่เลขาของหัวหน้า

จำไว้ สื่อสารอย่างเปิดใจคือหัวใจสำคัญ — อย่าให้พนักงานรู้สึกเหมือนชนเผ่าที่ถูกโยนเข้าสู่โลกอนาคต การเปลี่ยนแปลงสำเร็จ ทุกคนจะกลายเป็น "คนพื้นเมืองของยุคเทคโนโลยี"!



Using DingTalk: Before & After

Before

  • × Team Chaos: Team members are all busy with their own tasks, standards are inconsistent, and the more communication there is, the more chaotic things become, leading to decreased motivation.
  • × Info Silos: Important information is scattered across WhatsApp/group chats, emails, Excel spreadsheets, and numerous apps, often resulting in lost, missed, or misdirected messages.
  • × Manual Workflow: Tasks are still handled manually: approvals, scheduling, repair requests, store visits, and reports are all slow, hindering frontline responsiveness.
  • × Admin Burden: Clocking in, leave requests, overtime, and payroll are handled in different systems or calculated using spreadsheets, leading to time-consuming statistics and errors.

After

  • Unified Platform: By using a unified platform to bring people and tasks together, communication flows smoothly, collaboration improves, and turnover rates are more easily reduced.
  • Official Channel: Information has an "official channel": whoever is entitled to see it can see it, it can be tracked and reviewed, and there's no fear of messages being skipped.
  • Digital Agility: Processes run online: approvals are faster, tasks are clearer, and store/on-site feedback is more timely, directly improving overall efficiency.
  • Automated HR: Clocking in, leave requests, and overtime are automatically summarized, and attendance reports can be exported with one click for easy payroll calculation.

Operate smarter, spend less

Streamline ops, reduce costs, and keep HQ and frontline in sync—all in one platform.

9.5x

Operational efficiency

72%

Cost savings

35%

Faster team syncs

Want to a Free Trial? Please book our Demo meeting with our AI specilist as below link:
https://www.dingtalk-global.com/contact

WhatsApp