ติงติง: ยุคใหม่ของการสื่อสารในองค์กร

ติงติง: ยุคใหม่ของการสื่อสารในองค์กร

เมื่อเจ้านายพูดว่า "ส่งข้อความทางติงติงหน่อย" คุณรู้สึกหัวใจเต้นแรงทันทีไหม เหมือนได้ยินเสียงแตรสงคราม? อย่ากลัวเลย นี่ไม่ใช่การฝึกซ้อมทางทหาร แต่เป็นชีวิตประจำวันในที่ทำงานยุคใหม่ ติงติง ชื่อนี้ฟังดูเหมือนกำลังตอกตะปู แต่จริงๆ แล้วมันคือการ "ตอก" จังหวะใหม่แห่งประสิทธิภาพในการสื่อสารขององค์กร

ตั้งแต่ข้อความทันที การแชร์ไฟล์ รายการสิ่งที่ต้องทำ ไปจนถึงการลงเวลาเข้างาน ติงติงเหมือนยัดสำนักงานทั้งออฟฟิศลงในโทรศัพท์มือถือใครจะยังต้องรายงานแบบกระดาษอีก? เพียงคลิกเดียวไฟล์ก็ถูกอัปโหลด และทุกคนในทีมสามารถเห็นพร้อมกัน เจ้านายยังสามารถ @ คุณตอนตีสามเพื่อยืนยันรายละเอียดได้อย่างแม่นยำ — ความอบอุ่นจากเทคโนโลยี มันใกล้ตัวขนาดนี้แหละ

ยังไม่รวมฟีเจอร์ประชุมผ่านวิดีโอ ที่ทำให้ "ฉันประชุมอยู่ในห้องน้ำนะ" เป็นเรื่องปกติ ช่วงระบาดของโควิด-19 มีบริษัทมากมายที่อาศัยติงติงผ่านพ้นช่วงเวลาทำงานระยะไกลที่แสนสาหัส และแม้แต่ประธานบริษัทก็ยังเรียนรู้การใช้ฟิลเตอร์เสริมสวย ทำให้การประชุมออนไลน์ดูหล่อเหลากว่าการประชุมจริง

เคยมีบริษัทอีคอมเมิร์ซแห่งหนึ่ง ที่พลาดโปรโมชั่นครั้งใหญ่เพราะความสับสนในการทำงานร่วมกัน แต่หลังจากนำติงติงมาใช้ งานถูกจัดสรรโดยอัตโนมัติ ความคืบหน้าโปร่งใสและติดตามได้ ทำให้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นถึง 40% พนักงานพูดเล่นว่า "ก่อนหน้านี้เราต้องตามหาข้อมูล ตอนนี้ข้อมูลกลับวิ่งตามเราเอง"

ติงติงไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่มันคือระบบนิเวศใหม่ในที่ทำงาน — เคร่งครัดแต่แฝงความอึดอัด ทรงประสิทธิภาพแต่ก็มีการบ่น แต่ใครจะปฏิเสธระบบที่ทำให้เจ้านายสบายใจ ในขณะที่ลูกน้องแทบร้องไห้ได้ล่ะ?



Weibo: แพลตฟอร์มแบ่งปันของทุกคน

ถ้าพูดว่าติงติงคือพนักงานออฟฟิศที่แต่งตัวสุภาพ นั่งประชุมอย่างเป็นทางการ เว็บบ๋อ (Weibo) ก็คงเหมือนร้านชาข้างถนนที่พูดอะไรก็ได้ สนุกสนานและคึกคักที่สุด ที่นี่ไม่มีการลงเวลาเข้างาน มีแต่ "หัวข้อฮิต"; ไม่ต้องสนใจ KPI สนใจแค่จำนวนการแชร์เท่านั้น เว็บบ๋อ แพลตฟอร์มแบ่งปันของทุกคน ได้เปลี่ยนตัวเองจากรูปแบบโซเชียลมีเดียธรรมดา กลายเป็นลานกว้างแห่งความคิดเห็นที่สดใหม่ที่สุดในโลกภาษาจีน

คุณสามารถใช้ 140 ตัวอักษรระบายความอึดอัดกับเจ้านาย หรืออัปโหลดรูปอาหารมื้อค่ำเพื่อโอ้อวด หรือเข้าร่วมแฮชแท็กชวนขนลุกอย่าง #วันนี้คุณกินก๋วยจิ้งหรือยัง# แค่เปิดดูอันดับหัวข้อฮิต ก็เหมือนเปิดชีพจรของยุคสมัย — เมื่อวินาทีก่อนอาจเป็นละครดราม่าหย่าร้างของดารา พอวินาทีถัดมากลายเป็นการถกเถียงทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับสภาพอากาศผิดปกติ จำเหตุการณ์น้ำท่วมเหอหนานได้ไหม? มีคนจำนวนมากที่ใช้เว็บบ๋อส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือครั้งแรก และมีอาสาสมัครจำนวนมากที่รวมตัวกันผ่านแฮชแท็กเพื่อช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว

มันไม่ใช่แค่ลำโพง แต่ยังเป็นกระจกขยายเสียงด้วย เสียงของคนธรรมดาคนหนึ่ง หากสะกิดอารมณ์ของกลุ่มคนได้ ก็สามารถลุกเป็นไฟและกลายเป็นหัวข้อพูดคุยทั่วประเทศได้ทันที คุณเห็นอินฟลูเอนเซอร์อวดกระเป๋า แต่ก็เห็นคนงานก่อสร้างบันทึกชีวิต; มีทั้งกรณีวิกฤตการประชาสัมพันธ์ของแบรนด์ที่ล้มเหลว และคนธรรมดาพลิกชีวิตกลายเป็นผู้นำความคิดเห็น ที่นี่ ข้อมูลไหลเวียนเร็วกว่าไรเดอร์ส่งอาหาร และคุณไม่ใช่แค่ผู้ชม แต่ยังเป็นผู้ร่วมเขียนบทในเรื่องราว



ความแตกต่างและความเชื่อมโยงระหว่างติงติงกับเว็บบ๋อ

ติงติง และ เว็บบ๋อ ตัวหนึ่งเหมือนหัวหน้าแผนกที่เคร่งขรึม อีกตัวหนึ่งเหมือนคนรักสังคมที่ชอบความคึกคัก ดูเผินๆ อาจไม่เกี่ยวข้องกันเลย แต่ทั้งสองกลับเป็น "ผู้อยู่อาศัยประจำ" ในโทรศัพท์ของเรา ติงติงเน้นการทำงานร่วมกันในองค์กร กลุ่มเป้าหมายคือพนักงาน 9 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น ฟีเจอร์ล้วนหมุนรอบการลงเวลา การอนุมัติงาน การประชุมผ่านวิดีโอ แม้แต่การเตือนให้ลงเวลาเข้างานก็ยังดูเหมือน "การดูแลแบบพ่อ"

ส่วนเว็บบ๋อล่ะ? จากข่าวลือดาราไปจนถึงประเด็นสังคม ใครก็สามารถก่อกระแสได้ภายใน 140 ตัวอักษร กลุ่มผู้ใช้หลากหลายตั้งแต่นักเรียนไปจนถึงอินฟลูเอนเซอร์ ทุกคนอยากเป็น "ผู้พูด"

สถานการณ์การใช้งานก็ต่างกันลิบลับ ติงติงโผล่ขึ้นมาในรายงานเช้า ติดตามความคืบหน้าโครงการ หรือแม้แต่เจ้านายที่ทักมาตอนดึก "อยู่ไหม?" ส่วนเว็บบ๋อคึกคักอยู่บนอันดับหัวข้อฮิต สนามแข่งขันของแฟนคลับ และแนวหน้าของการโต้ตอบกันของชาวเน็ต แต่อย่าคิดว่าทั้งสองไม่มีจุดเชื่อมโยง — หลายบริษัทใช้เว็บบ๋อในการประชาสัมพันธ์แบรนด์ แล้วใช้ติงติงประสานงานภายใน หนึ่งด้านนอก หนึ่งด้านใน เหมือน "ฝาแฝดการตลาด" บางบริษัทให้ทีมบริการลูกค้าวางแผนตอบกลับผ่านติงติง แล้วจึงออกแถลงการณ์ทันทีบนเว็บบ๋อ ทำให้ประสิทธิภาพพุ่งสูงสุด

ความเสริมกันของพวกมัน เหมือนมือซ้ายเขียนเอกสารราชการ มือขวาเลื่อนฟีดข่าว ขาดไม่ได้ทั้งคู่



วิธีใช้ติงติงและเว็บบ๋อให้เกิดประโยชน์สูงสุด

อยากสลับไปมาระหว่างติงติงและเว็บบ๋อได้อย่างคล่องแคล่ว เหมือนนินจาดิจิทัลที่ทั้งมีประสิทธิภาพและเป็นที่นิยม? อย่ามัวตกใจกลัวจนหัวใจเต้นผิดจังหวะเพราะกลุ่มงานส่งข้อความถี่ หรือถอนหายใจเพราะยอดผู้ติดตามบนเว็บบ๋อไม่เพิ่ม! ก่อนอื่น การสื่อสารบนติงติงไม่ใช่การแข่งขัน "ใครพิมพ์เร็วใครชนะ" ควรใช้ฟีเจอร์ "อ่านแล้ว/ยังไม่อ่าน" ตั้งการแจ้งเตือนสำหรับงานสำคัญ แปลงข้อความที่ซ้ำๆ เป็น "คลังความรู้" หรือ "วลีสำเร็จรูป" จะได้ไม่ต้องโดนเพื่อนร่วมงานถามทุกวันว่า "ไฟล์นั้นอยู่ไหน" สิบรอบ นอกจากนี้ ควรสร้างกลุ่มแยกให้ชัดเจน เช่น "กลุ่มงานด่วน" หรือ "กลุ่มเม้าท์มอยหลังน้ำชา" เพื่อให้ข้อความไปอยู่ในที่ที่เหมาะสม จิตใจก็จะเป็นระเบียบ

ส่วนเว็บบ๋อ อย่ามัวกดไลก์กับแชร์แล้วคิดว่าตัวเองดัง! อยากเพิ่มผู้ติดตามใช่ไหม? จังหวะสำคัญกว่าความขยัน ควรโพสต์ในเวลาที่แน่นอน ผสมกับหัวข้อฮิตแต่ต้องมีมุมมองเฉพาะตัว เช่น "เจ้านายบอกว่าโอทีคือพร ฉันตอบไปว่า แล้วถ้าฉันถูกรางวัลที่หนึ่ง ฉันควรบริจาคให้บริษัทไหม?" ขำขันผสมความแสบ ปฏิสัมพันธ์ก็จะตามมาเอง อีกทั้ง ควรใช้ฟีเจอร์โหวตหรือถาม-ตอบ ให้ผู้ติดตามกลายเป็น "ทีมสนับสนุนสมองนอก" ของคุณ สุดท้าย ตั้ง "เคอร์ฟิวสื่อสังคม" รายวัน อย่าปล่อยให้มือถือกินเวลานอนของคุณ — เพราะดาวคู่ที่เก่งกาจแค่ไหน ก็ต้องพักผ่อนถึงจะส่องแสงได้



แนวโน้มในอนาคต: ทิศทางการพัฒนาของติงติงและเว็บบ๋อ

แนวโน้มในอนาคต: ทิศทางการพัฒนาของติงติงและเว็บบ๋อ

ขณะที่คุณยังใช้ติงติงลงเวลาเข้างาน และทุกข์ทรมานกับคำว่า "อ่านแล้วไม่ตอบ" ติงติงอาจกำลังอัปเกรดเงียบๆ กลายเป็นเพื่อนร่วมงาน AI ที่ไม่เพียงช่วยเขียนอีเมล แต่ยังคาดเดาได้ว่าเจ้านายจะโกรธเมื่อไหร่ ส่วนเว็บบ๋อล่ะ? อย่าคิดว่ามันเป็นแค่แหล่งกิน瓜 (กินข่าว) เพราะในอนาคต เว็บบ๋ออาจให้คุณสร้างละครสั้นฮิตด้วยการคลิกเดียว แล้วเล่นไปด้วยขณะเลื่อนไปด้วย ไม่ต้องรอให้อ้ายฉีอี้อัปเดตอีกต่อไป

ในด้านนวัตกรรม เทคโนโลยีติงติงกำลังพุ่งสู่ "โฟลว์งานอัจฉริยะ" — การแปลงเสียงเป็นรายงานการประชุมเป็นเพียงจุดเริ่มต้น ต่อไปคือการจัดสรรงานโดยอัตโนมัติ วิเคราะห์อารมณ์ทีมงาน หรือแม้แต่ตรวจจับว่าใครกำลังเล่นเกม (ใช่ คุณนั่นแหละที่แอบดูวิดีโอแมวน่ารัก)

ส่วนเว็บบ๋อกำลังเดิมพันกับ AIGC ที่ให้ผู้ใช้สร้างภาพหรือวิดีโอไวรัลด้วยคำสั่งข้อความเพียงอย่างเดียว ทำให้คนธรรมดาสามารถกลายเป็นนักสร้างคอนเทนต์ได้ทันที สิทธิประโยชน์จากกระแสผู้ชมจะไม่ใช่สิทธิพิเศษของบัญชีดังอีกต่อไป

ในด้านการขยายตลาด ติงติงเล็งเป้าไปที่ SME ที่ต้องการออกไปต่างประเทศ พร้อมจะนำรูปแบบการทำงานแบบจีนที่ "ดุดัน" ไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนเว็บบ๋อต้องการเชื่อมโยงโซเชียลคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน ทำให้หัวข้อฮิตกลายเป็นรถเข็นช้อปปิ้งได้ทันที ส่วนประสบการณ์ผู้ใช้ก็ไม่ใช่แค่ปรับหน้าตาให้สวย แต่เป็น "ปฏิวัติการลดภาระ": ติงติงจะเรียนรู้การกรองข้อความที่ไม่จำเป็น ส่วนเว็บบ๋อจะสั่งให้อัลกอริทึมเลิกเสนอไอ้ดาราที่คุณแอบชอบเมื่อสิบปีก่อน

การแข่งขันของดาวคู่นี้ ไม่ใช่แค่อัปเกรดฟีเจอร์ แต่คือการเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานว่าเราจะทำงานและบันเทิงอย่างไร — ระวังไว้ให้ดี ชีวิตของคุณกำลังถูกนิยามใหม่



We dedicated to serving clients with professional DingTalk solutions. If you'd like to learn more about DingTalk platform applications, feel free to contact our online customer service, or reach us by phone at (852)4443-3144 or email at This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.. With a skilled development and operations team and extensive market experience, we’re ready to deliver expert DingTalk services and solutions tailored to your needs!