
เมื่อทุกคนยังคิดว่า DingTalk เป็นเพียงเครื่องมือสำนักงานไว้สแกนลายนิ้วมือหรือนัดประชุมออนไลน์ วงการการศึกษาได้แอบเกิด "ปฏิวัติกระดานดิจิทัล" ขึ้นแล้ว ครูไม่ต้องวิ่งตามนักเรียนเพื่อเก็บการบ้านอีกต่อไป เพียงแคะหนึ่งครั้งบน DingTalk การบ้านจะถูกส่งตรงถึงมือถือของนักเรียนทุกคนทันที ส่งช้าเหรอ? ระบบจะไฮไลต์เป็นสีแดงโดยอัตโนมัติ แม่นยำกว่าคำพูดซ้ำๆ ของครูที่ปรึกษาอีก! ที่น่าทึ่งไปกว่านั้น เด็กนักเรียนชั้นป.3 ก็สามารถส่งเสียงอ่านภาษาจีนผ่าน DingTalk ได้ แล้วครูก็ตรวจให้คำแนะนำด้วยเสียงในแอปพลิเคชัน เหมือนกลายเป็นติวเตอร์ลอยฟ้า
ฟีเจอร์เด็ดที่สุด คงหนีไม่พ้นการประชุมผู้ปกครองออนไลน์ — ไม่ต้องเบียดรถไฟฟ้า ไม่ต้องแย่งเก้าอี้ในโรงเรียนอนุบาล พ่อแม่ใส่แตะอยู่ที่บ้านก็เข้าร่วมได้ทันเวลา มีบางโรงเรียนถึงขั้นนำผลงานศิลปะของเด็กมาจัดแสดงแบบดิจิทัล แล้วสลับภาพในกลุ่ม DingTalk ผู้ปกครองดูไป กดไลก์ไป ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่ลูกก็อบอุ่นขึ้นทันที ครูบางคนยังหัวเราะบอกว่า "แต่ก่อนประกาศอะไรเหมือนปล่อยนกพิราบ บินไปไหนก็ไม่รู้ ตอนนี้ใช้ DingTalk รู้ทันทีว่าใครอ่านแล้ว ใครแกล้งทำเป็นไม่เห็น"
จะพูดว่า DingTalk เป็นแค่เครื่องมือก็คงไม่ถูก ควรเรียกว่า "ผู้ช่วยครูประจำชั้นอัจฉริยะ" ที่คอยช่วยลดภาระครู ทำให้นักเรียนทันทีทันใด และให้ผู้ปกครองอุ่นใจ — เหลือแต่จะไม่ช่วยนักเรียนทำการบ้านเท่านั้น!
เวทมนตร์ของ DingTalk ในธุรกิจค้าปลีก
พูดถึงธุรกิจค้าปลีก นี่คือสนามรบที่ DingTalk แสดงฤทธิ์เดชอย่างแท้จริง! หัวหน้าร้านไม่ต้องสวมบทเชอร์ล็อก โฮล์มส์ ตามสืบว่าใครไม่ได้สแกนเวลาทำงาน หรือสินค้าหายไปไหน พนักงานก็ไม่ต้องตะโกนผ่านวิทยุว่า "ฝ่ายบริหารครับ—เอาทิชชูมาเติม!" เมื่อมี DingTalk ทุกอย่างควบคุมได้ด้วยปลายนิ้ว จากการรายงานยอดขายประจำสาขาระบบเรียลไทม์ ไปจนถึงระบบจัดตารางงานอัตโนมัติที่เลี่ยงปัญหา "คุณเหม่ยและคุณวิงห้ามกะเดียวกัน" ได้อย่างชาญฉลาด DingTalk จึงเหมือนมีดสวิส Army Knife ของวงการค้าปลีก — ทำได้ทุกอย่าง และยังดูเท่อีกต่างหาก
ที่เจ๋งกว่านั้น กระบวนการอนุมัติใน DingTalk ทำให้การลาและการเบิกค่าใช้จ่ายไม่ใช่ละครน้ำเน่า "รอลายเซ็นหัวหน้าจนดอกไม้ร่วงโรย" พนักงานแค่แตะมือถือ คำขอส่งออกไป หัวหน้าดื่มกาแฟไป อนุมัติไป สะดวกสบายจนเทียบได้กับห้องลองเสื้อที่ปรับอุณหภูมิอัตโนมัติ นอกจากนี้ ด้วยฟังก์ชันรวมข้อมูลจากหลายสาขา ผู้จัดการเขตสามารถนั่งอยู่ที่ออฟฟิศแล้วรู้ทันทีว่า "สาขารวงหยกขายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปหมดเกลี้ยง แต่สาขากงซวงยังเหลือตุนเต็มโกดัง" แล้วจัดการขนส่งทันที ป้องกันการสูญเสียทรัพยากร
กรณีศึกษา: ซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งใช้ DingTalk ในการจัดการสต๊อกสินค้าและตารางงานพนักงาน ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานโดยรวมดีขึ้นอย่างชัดเจน
งานเลี้ยงของ DingTalk ในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม
ขณะที่ธุรกิจค้าปลีกกำลังใช้ DingTalk จัดการชั้นวางสินค้าและตารางงาน กระทะในครัวก็เริ่มส่งเสียงดังเป็นจังหวะสนุกสนาน ธุรกิจอาหารอาจดูเหมือนเต็มไปด้วยกลิ่นควันไฟ แต่กลับกลัวที่สุดเรื่องการสื่อสาร "ผัดไหม้" — เช่น ลืมออร์เดอร์ ขาดวัตถุดิบ หรือลูกค้าร้องเรียน แล้วยังต้องตะโกนสื่อสารกันอยู่อีกหรือ? อย่าเพิ่งร้อนใจ เพราะเมื่อ DingTalk โผล่มา แม้แต่หม้อข้าวอบก็ยังปิดไฟอัตโนมัติ
ตั้งแต่วินาทีที่ลูกค้าสั่งอาหาร DingTalk ก็กลายเป็น "พนักงานเสิร์ฟดิจิทัล" ที่ไม่มีวันเหนื่อย นำความต้องการของลูกค้าส่งตรงไปยังหน้าจอใหญ่ในครัว เชฟไม่ต้องเดาแล้วว่า "กุ้งผัดพริกเกลือโต๊ะสาม จะเผ็ดหรือไม่เผ็ด" หากด้านหน้าร้านมีคำขอพิเศษ เช่น "ลดเค็ม ไม่ใส่ต้นหอม ขออวยพรวันเกิดแฟนหน่อย" ก็สามารถระบุและซิงค์ข้อมูลได้ทันที ทำให้เซอร์ไพรส์ไม่กลายเป็นเรื่องน่าตกใจ ที่เจ๋งกว่านั้น ผู้จัดจำหน่ายก็สามารถเข้าร่วมกลุ่ม DingTalk ได้ เมื่อของสดส่งถึง ถ่ายรูปแล้วอัปโหลด ข้อมูลสต๊อกก็อัปเดตอัตโนมัติ ไม่ต้องจัดประชุมฉุกเฉินเพื่อถามว่า "กุ้งมังกรคืนนี้หายไปไหน?" อีกต่อไป
กรณีศึกษา: ร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่งใช้ DingTalk ในการจัดการออร์เดอร์และรวบรวมความคิดเห็นลูกค้า ทำให้ความพึงพอใจของลูกค้าเพิ่มขึ้น พวกเขายังสร้างคอลัมน์ "ราชาแห่งการบ่นวันนี้" โดยให้พนักงานส่งข้อเสนอแนะแบบไม่เปิดเผยชื่อ ผู้บริหารตอบกลับผ่านการไลฟ์สดรายสัปดาห์ หัวเราะไปพร้อมกับแก้ปัญหา บรรยากาศในทีมร้อนแรงกว่าหม้อไฟอีก
DingTalk ตัวเร่งในธุรกิจโลจิสติกส์
เมื่อธุรกิจโลจิสติกส์พบกับ DingTalk ก็เหมือนรถบรรทุกเปลี่ยนเครื่องยนต์เทอร์โบ — พุ่งทะยานไม่หยุดยั้ง! ในอุตสาหกรรมที่แข่งขันกันทุกวินาที การสายเพียงนาทีเดียวอาจทำให้ลูกค้า "เดือด" แต่ DingTalk คือชาเย็นที่ช่วยดับไฟ จากคนขับรถบรรทุก จนถึงพนักงานคลังสินค้า จากผู้ควบคุมการจัดส่ง ไปจนถึงพนักงานบริการลูกค้า ทุกคนสามารถสื่อสารแบบเรียลไทม์บนแพลตฟอร์มเดียวกัน ไม่ต้องเดาอีกต่อไปว่า "เขาได้รับข้อความ WhatsApp หรือยัง"
ที่น่าทึ่งกว่านั้น แบบฟอร์มอัจฉริยะและกระบวนการทำงานอัตโนมัติใน DingTalk ทำให้การติดตามสินค้าไม่ใช่ "การคลำช้างในที่มืด" อีกต่อไป สินค้าแต่ละชิ้นอยู่ที่ไหน ใครรับผิดชอบ เวลาใดจะส่ง หรือมีเหตุขัดข้องหรือไม่ ทุกอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง บริษัทโลจิสติกส์ขนาดใหญ่แห่งหนึ่งถึงขั้นรวมการสแกนเวลาทำงาน การรายงานเส้นทาง และการแจ้งเหตุผิดปกติของคนขับรถทั้งหมดไว้ใน DingTalk คนขับรถเองยังพูดยิ้มๆ ว่า "ตอนนี้ไม่ต้องมานั่งสู้กับปากกาและกระดาษอีกแล้ว รู้สึกเหมือนอัพเกรดจากรถถีบเป็นรถไฟแม่เหล็ก"
บวกกับฟังก์ชันหุ่นยนต์ในกลุ่ม DingTalk ที่เมื่อมีความล่าช้า จะแจ้งเตือนลูกค้าโดยอัตโนมัติ ความตั้งใจเต็มร้อย ทำให้จำนวนการร้องเรียนลดลงครึ่งหนึ่ง ชัดเจนว่า ในมาราธอนของโลจิสติกส์ DingTalk ไม่เพียงช่วยให้คุณวิ่งเร็ว แต่ยังวิ่งได้อย่างสง่างาม!
ศักยภาพของ DingTalk ในอุตสาหกรรมอื่นๆ
ขณะที่คนขับรถบรรทุกกำลังขับเคลื่อนบนทางด่วน อีกกลุ่มหนึ่งก็กำลังนั่งอยู่ในออฟฟิศ ใช้ DingTalk บริหารจัดการเมืองทั้งเมืองให้อยู่หมัด — ใช่แล้ว หมายถึงสองอุตสาหกรรมที่ดูเคร่งขรึมแต่แฝงมุกตลกไว้ นั่นคือการแพทย์และการเงิน ในโรงพยาบาล หัวหน้าพยาบาลไม่ต้องถือลำโพงวิ่งตามหมอตะโกนว่า "เปลี่ยนกะแล้วนะ!" เพียงแค่แตะ DingTalk ตารางงานก็อัปเดตอัตโนมัติ แม้แต่การลาป่วยเพราะไข้หวัดก็ทำผ่านออนไลน์ได้ รวดเร็วกว่าการลงทะเบียนรับบริการอีก ที่เจ๋งกว่านั้น ข้อมูลผู้ป่วยถูกส่งแบบเข้ารหัส ทั้งปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ แม้แต่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลก็เริ่มใช้ DingTalk ไลฟ์สดตอนตรวจเยี่ยมผู้ป่วย ตั้งชื่อเก๋ๆ ว่า "ตรวจเยี่ยมผ่านคลาวด์"
ส่วนวงการการเงิน อย่าคิดว่าพวกเขาทำได้แค่จ้องกราฟ K-Line เพราะที่จริงแล้วพวกเขากำลังใช้ DingTalk สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ข้อความในห้องเทรดแลกเปลี่ยนเร็วเหมือนกระสุน ฟังก์ชันอ่านแล้ว/ยังไม่อ่านใน DingTalk ทำให้หัวหน้ามองออกทันทีว่าใครกำลังเมาส์เล่น ใครกำลังจริงจังกับการบริหารความเสี่ยง ส่งเอกสารสำคัญ? ไม่ต้องกลัวแฮกเกอร์ เพราะระดับการเข้ารหัสของ DingTalk เทียบเท่าตู้นิรภัย แม้แต่สินทรัพย์ของลูกค้าก็รู้สึกปลอดภัยยิ่งขึ้น ธนาคารแห่งหนึ่งถึงขั้นใช้ DingTalk สร้างช่อง "ประกวดมีมการเงิน" ภายในองค์กร ไม่ว่าความเครียดจะมากแค่ไหน หัวเราะเสร็จก็กลับมาเทรดต่อได้ทันที
สรุปคือ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในวงการช่วยชีวิตหรือดูแลเงินตรา หากไม่อยากถูกกระดาษและโทรศัพท์ไล่ตามตลอดเวลา DingTalk คืออุปกรณ์เสริมดิจิทัลที่คุณต้องมี
Using DingTalk: Before & After
Before
- × Team Chaos: Team members are all busy with their own tasks, standards are inconsistent, and the more communication there is, the more chaotic things become, leading to decreased motivation.
- × Info Silos: Important information is scattered across WhatsApp/group chats, emails, Excel spreadsheets, and numerous apps, often resulting in lost, missed, or misdirected messages.
- × Manual Workflow: Tasks are still handled manually: approvals, scheduling, repair requests, store visits, and reports are all slow, hindering frontline responsiveness.
- × Admin Burden: Clocking in, leave requests, overtime, and payroll are handled in different systems or calculated using spreadsheets, leading to time-consuming statistics and errors.
After
- ✓ Unified Platform: By using a unified platform to bring people and tasks together, communication flows smoothly, collaboration improves, and turnover rates are more easily reduced.
- ✓ Official Channel: Information has an "official channel": whoever is entitled to see it can see it, it can be tracked and reviewed, and there's no fear of messages being skipped.
- ✓ Digital Agility: Processes run online: approvals are faster, tasks are clearer, and store/on-site feedback is more timely, directly improving overall efficiency.
- ✓ Automated HR: Clocking in, leave requests, and overtime are automatically summarized, and attendance reports can be exported with one click for easy payroll calculation.
Operate smarter, spend less
Streamline ops, reduce costs, and keep HQ and frontline in sync—all in one platform.
9.5x
Operational efficiency
72%
Cost savings
35%
Faster team syncs
Want to a Free Trial? Please book our Demo meeting with our AI specilist as below link:
https://www.dingtalk-global.com/contact

ภาษาไทย
English
اللغة العربية
Bahasa Indonesia
Bahasa Melayu
Tiếng Việt
简体中文 