สิ่งที่ดีเกี่ยวกับการลงเวลาทำงานบน DingTalk: ทำให้การเข้าทำงานตรงเวลาเป็นเรื่องง่าย

“ติ้งตอง! คุณได้ลงเวลาเรียบร้อยแล้ว” — นี่ไม่ใช่เสียงเตือนว่าอาหารส่งถึงแล้ว แต่เป็นหลักฐานอิเล็กทรอนิกส์ที่ยืนยันว่าคุณมาทำงานตรงเวลาบนแอปพลิเคชัน DingTalk ครั้งหนึ่ง การลงเวลาอาจเคยเป็นพิธีกรรมน่าอึดอัดที่ต้องมายืนต่อแถวสแกนลายนิ้วมือหน้าสำนักงาน แต่ตอนนี้แค่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ไม่ว่าจะอยู่บนรถไฟฟ้า บนบันได หรือแม้แต่ขณะกัดแซนด์วิชคำแรก ก็สามารถลงเวลาได้ภายในวินาทีเดียว เหมือนกับว่าดวงตาของหัวหน้าที่จับจ้องอยู่ได้หลับลงชั่วขณะ ความรู้สึกปลอดภัยจึงเกิดขึ้นทันที

ระบบลงเวลาทำงานของ DingTalk ไม่ได้มีดีแค่ “ลงเวลาได้” เท่านั้น แต่ยังเหมือนพ่อบ้านที่ใส่ใจรายละเอียด สามารถตั้งกฎเกณฑ์แบบยืดหยุ่นตามแผนกต่าง ๆ เช่น ทีมขายที่ต้องลงเวลาขณะอยู่นอกสำนักงาน พนักงานธุรการที่ต้องลงเวลาตามช่วงเวลาที่กำหนด หรือแม้แต่ข้อกำหนดแบบ “มาสายไม่เกิน 10 นาที ไม่ถือว่าสาย” ผู้จัดการเพียงคลิกไม่กี่ครั้งบนระบบหลังบ้าน กฎก็จะถูกใช้งานทันที และพนักงานทุกคนจะได้รับการอัปเดตโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องถามกันให้วุ่นวายในกลุ่มแชทอีกต่อไปว่า “วันนี้ต้องลงเวลากี่ครั้ง?”

ที่เจ๋งกว่านั้นคือ ประวัติการลงเวลาชัดเจนทุกอย่าง การลา ทำงานล่วงเวลา หรือการไปปฏิบัติงานนอกสถานที่ ทั้งหมดจะถูกจัดเก็บอัตโนมัติ หมดปัญหาเรื่อง “ฉันลงเวลาแล้วนะ!” ที่มักเกิดขึ้นช่วงปลายเดือน แถมยังมีเคล็ดลับเล็ก ๆ อย่างการตั้งตำแหน่งการลงเวลาไว้ใกล้เครื่องชงกาแฟในสำนักงาน เพื่อเตือนตัวเองไปในตัวว่า “ลงเวลา + เอากาแฟ” สองภารกิจสำเร็จพร้อมกัน หรือจะตั้งให้ “หลังจากลงเวลา ให้ส่งข้อความอัตโนมัติในกลุ่ม” ก็ช่วยเสริมภาพลักษณ์ว่าเป็นคนขยันได้โดยไม่ต้องพยายาม

แน่นอน แม้ระบบจะฉลาดแค่ไหน ก็ยังกลัวคนลืมบ่อย ๆ — อย่ากังวล ตัวช่วยของเราจะมาปรากฏในตอนต่อไป



การเตือนอัจฉริยะ: ไม่ต้องกลัวลืมลงเวลาอีกต่อไป

“ติ้งตอง! ถึงเวลาลงเวลากำลังจะมาถึง!” — นี่ไม่ใช่เสียงกริ่งประตู แต่เป็นเสียงเรียกจาก DingTalk ในกระเป๋ากางเกงคุณ คุณที่กำลังหลับตาพักผ่อนบนรถไฟฟ้าตอนเช้า อาจจะเคยเสียใจมาก่อนเพราะลืมลงเวลา อย่ากลัว DingTalk มีฟีเจอร์การเตือนอัจฉริยะที่เหมือนคุณแม่จอมเป็นห่วง คอยกระซิบเตือนคุณอย่างอ่อนโยนว่า “นอนต่ออีกสามวินาทีจะสายแล้วนะ~”

คุณสามารถตั้งเวลาเตือนให้ “ก่อนเวลาทำงาน 10 นาที” ได้ตามเวลาเข้าทำงานของคุณ หรือจะตั้งเสียงเตือนแบบเฉพาะตัว เช่น “ดวงตาของหัวหน้าจับจ้องมาที่คุณแล้ว!” ก็ได้ ที่เจ๋งกว่านั้นคือ DingTalk สามารถปรับเวลาเตือนได้ตาม “ตำแหน่งที่ตั้งและรูปแบบการเดินทางของคุณ” — วันนี้รถติด? มันจะเตือนให้เร็วกว่าปกติ วันนี้เดินไปทำงาน? มันจะเตือนช้าลงหน่อย ความใส่ใจที่ “เข้าใจคุณ” แบบนี้ ช่วยลดอัตราการมาสายได้ถึงสามสิบเปอร์เซ็นต์

มีพนักงานฝ่ายการตลาดคนหนึ่งเล่าให้ฟังว่า “ก่อนหน้านี้ทุกเดือนมาสายสองครั้ง โดนหักเงินแถมหัวหน้าจับตาดู ตั้งแต่ตั้งการเตือนบน DingTalk มา ก็ “ขาดงานไม่แม้แต่วันเดียวต่อเนื่อง 180 วัน” จนตัวเองยังรู้สึกภูมิใจ” ที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือ ฟีเจอร์นี้ยังมี “การเตือนย้อนกลับ” — ตอนใกล้เลิกงาน จะเตือนให้คุณอย่าลืมลงเวลาเลิกงาน เพื่อหลีกเลี่ยงโศกนาฏกรรม “ตัวคนกลับไปแล้ว แต่ชั่วโมงทำงานยังติดอยู่”

จาก “被动ลงเวลา” สู่ “การเตือนล่วงหน้า” DingTalk ไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่ยังเป็น “ผู้ช่วยเล็ก ๆ สำหรับการดำรงชีวิตในที่ทำงาน” เมื่อเสียงเตือนดังขึ้นในครั้งต่อไป คุณอาจพบว่ามันไม่ได้แค่เรียกให้คุณลงเวลา แต่แอบถามคุณเบา ๆ ว่า “มื้อกลางวันจะกินอะไรดี?”



ถึงเวลาอาหารกลางวัน: บริการสั่งอาหารกลางวันบน DingTalk

ติ้งตอง! ถึงเวลาอาหารกลางวันแล้ว! เมื่อ DingTalk เพิ่งช่วยคุณรอดพ้นจากการมาสายได้สำเร็จ วินาทีถัดไป มันก็เปลี่ยนร่างเป็น “ผู้นำทางมื้อกลางวัน” พร้อมที่จะช่วยชีวิตจิตวิญญาณที่หิวโหยและขี้เกียจคิดของคุณ อย่าสงสัยเลย DingTalk ไม่ได้แค่ดูแลว่าคุณมาทำงานหรือยัง แต่ยังดูแลว่าคุณกินข้าวอย่างดีหรือยังด้วย!

เปิด DingTalk แล้วเข้าไปที่ “หน้าการทำงาน” แล้วแตะที่ฟีเจอร์ “สั่งอาหารกลางวัน” เหมือนเปิดประตูสู่ศูนย์อาหารเสมือนจริง เมนูจากร้านค้าที่ร่วมรายการในบริเวณใกล้เคียงจะปรากฏให้เห็นทั้งหมด รูปภาพอาหารสวยจนอาจทำให้คุณนึกว่ากำลังเลื่อนดูแอปอาหารอยู่ เปิดดู “เมนูแนะนำวันนี้” ยังมีการแนะนำอัจฉริยะที่อิงจากพฤติกรรมการสั่งอาหารของคุณ — ครั้งที่แล้วสั่งอาหารเสฉวน ครั้งนี้ก็จะมีเมนูปลาน้ำซุบดองเปรี้ยวที่คนทานเผ็ดน้อยก็ทานได้โผล่ขึ้นมา ช่างเข้าใจคุณยิ่งกว่าเพื่อนร่วมงานอีก

เลือกเมนูเสร็จ กดสั่งเพียงครั้งเดียว รองรับหลายช่องทางการชำระเงิน ตั้งแต่ Alipay ไปจนถึงบัตรเครดิต การจ่ายเงินรวดเร็วจนไม่ทันจะเปลี่ยนใจ ที่ยอดเยี่ยมที่สุดคือ ระบบจะซิงค์เวลาการสั่งอาหารกับตำแหน่งสำนักงานโดยอัตโนมัติ เมื่ออาหารส่งถึง คุณแทบไม่ต้องเดินลงไปรับ — พนักงานธุรการสาวน้อยก็รับไว้ให้เรียบร้อยแล้ว กลิ่นหอมของอาหารกลางวันทั้งชั้นจึงพุ่งสูงขึ้นพร้อมกัน

“ก่อนหน้านี้พักกลางวันเหมือนศึกสงคราม ตอนนี้เหมือนดูซีรีส์กินอาหาร” โปรแกรมเมอร์คนหนึ่งที่เรียกตัวเองว่า “คนขี้เกียจสั่งอาหาร” หัวเราะกล่าว “DingTalk ทำให้ผมเปลี่ยนจากคนตัดสินใจไม่ได้ เป็นพนักงานตัวอย่างที่กินข้าวตรงเวลา”



โปรโมชั่นสั่งซื้อเป็นกลุ่ม: กินพร้อมกัน ยิ่งถูกกว่า

“อดตายก็ไม่เท่าไร แต่เสียหน้าถึงจะแย่” — แต่บน DingTalk อดตายถือว่าเรื่องใหญ่ เพราะอาหารกลางวันสามารถสั่งเป็นกลุ่มได้! ขณะที่คุณเพิ่งสั่งอาหารกลางวันบน DingTalk เตรียมจะกินแซนด์วิชคนเดียวอย่างเงียบเหงา ทันใดนั้นก็มีการแจ้งเตือนเด้งขึ้นมา: “ฝ่ายการตลาดเปิดรับสั่งพิซซ่าแบบกลุ่ม ครบ 50 คน ลด 20% แถมได้รับโค้กฟรี!” ทันใดนั้น อาหารกลางวันที่เหงา ๆ ก็กลายเป็นปาร์ตี้ขนาดย่อมในสำนักงาน นี่คือเวทมนตร์ของกลุ่มสั่งซื้อบน DingTalk — ไม่เพียงประหยัดเงิน แต่ยังทำให้คุณได้เพื่อนจากเรื่องกิน

การเปิดรับสั่งเป็นกลุ่มง่ายเหมือนส่งสติกเกอร์: เปิด DingTalk เข้าไปที่ฟีเจอร์ “สั่งเป็นกลุ่ม” กรอกร้านอาหาร จำนวนคนที่คาดว่าจะสั่ง เวลาปิดรับ แล้วเขียนข้อความล่อใจ เช่น “ใครไม่ร่วม คืนนี้จะฝันถึงน้ำตกชีส” จากนั้นกดส่งให้ทุกคน ใครจะร่วมก็แค่กดสองครั้ง ระบบจะนับจำนวนอัตโนมัติ คำนวณส่วนลดให้เอง แม้แต่ที่อยู่จัดส่งก็กรอกให้เรียบร้อย เคยมีทีมหนึ่งสั่งชาไข่มุกเป็นกลุ่ม ประหยัดเงินได้ 300 หยวน แล้วนำเงินที่เหลือไปเพิ่มพุดดิ้ง ความสุขในสำนักงานก็พุ่งพรวด

ที่เจ๋งกว่านั้นคือ การสั่งเป็นกลุ่มกลายเป็นเครื่องมือสร้างสัมพันธ์ข้ามแผนก วิศวกรกับนักออกแบบที่ปกติไม่ค่อยพูดคุยกัน กลับกลายเป็น “เพื่อนร่วมรสเผ็ด” เพราะสั่งหม้อไฟเสฉวนเป็นกลุ่มด้วยกัน ประหยัดต้นทุน ความสัมพันธ์ดีขึ้น แม้แต่การประชุมตอนบ่ายก็มีเสียงหัวเราะเพิ่มขึ้น ใครบอกว่าการทำงานไม่สามารถอบอุ่นขึ้นได้ระหว่างกิน?



เคล็ดลับเล็ก ๆ บน DingTalk: ทำให้งานลื่นไหลยิ่งขึ้น

คุณคิดว่า DingTalk ใช้ได้แค่ลงเวลาทำงานกับสั่งอาหารเป็นกลุ่มหรือ? คุณประเมินมันต่ำไปแล้ว! หลังจากลงเวลาทำงานตอนเช้า แทนที่จะนั่งจ้องหน้าจอเปล่า ๆ ลองเปิดฟีเจอร์ “ปฏิทิน” บน DingTalk แล้วใส่ทุกอย่างที่ต้องทำวันนี้ลงไป เช่น การประชุม รายงานที่ต้องส่ง การเตือนจากปฏิทินที่ซิงค์กันทุกอุปกรณ์ ช่างใส่ใจสุด ๆ แม้แต่หัวหน้าลืมประชุม ระบบก็จะเด้งเตือนขึ้นมาทันที เหมือนฮีโร่ของที่ทำงานเลย!

ขอแอบบอกเคล็ดลับของผู้เชี่ยวชาญอีกอย่างหนึ่ง — กระดานงาน งานเยอะจนหัวหมุนใช่ไหม? ลากแต่ละงานใส่ในช่อง “สิ่งที่ต้องทำ” “กำลังดำเนินการ” “เสร็จเรียบร้อยแล้ว” ความคืบหน้าจะชัดเจนทันตา ที่เจ๋งกว่านั้นคือ คุณสามารถ @ เพื่อนร่วมงานเพื่อแบ่งงานได้ ระบบยังติดตามวันครบกำหนดให้อัตโนมัติ ไม่ต้องวิ่งไล่ถามว่า “เสร็จยัง?” อีกต่อไป

อยากเพิ่มประสิทธิภาพให้พุ่งปรี๊ด? ลองเชื่อม “ปฏิทิน” กับ “กระดานงาน” เข้าด้วยกัน! เช่น ตั้ง “การประชุมทบทวนเรื่องอาหารกลางวัน” ทุกวันพุธเที่ยง เป็นเหตุการณ์ที่เกิดซ้ำ และให้ระบบสร้าง “สิ่งที่ต้องทำ” อัตโนมัติหนึ่งวันก่อนประชุมว่า “เตรียมข้อมูลการสั่งอาหารกลุ่มประจำเดือนนี้” แบบนี้ ตั้งแต่ลงเวลา ประชุม กินข้าว ส่งรายงาน ทุกอย่างลื่นไหลต่อเนื่อง ราบรื่นเหมือนไข่ต้มในกล่องข้าวกลางวัน!

อย่าใช้แค่ DingTalk ลงเวลาอีกเลย ถ้าไม่ใช้ฟีเจอร์พวกนี้ ก็เหมือนซื้อหม้อหุงข้าวไฟฟ้ามา แต่ใช้แค่อุ่นข้าว — เสียดายสุด ๆ!