
ในยุคที่แม้แต่การซื้อกาแฟสักแก้วยังต้องสแกนคิวอาร์โค้ด บริษัทของคุณยังคงใช้กระดาษกับปากกาจดประเด็นประชุมอยู่หรือ? อย่าหัวเราะ เพราะนี่ไม่ใช่การพูดเกินจริง ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมจำนวนมากยังคงมองว่า "การเปลี่ยนผ่านดิจิทัล" เป็นสิทธิพิเศษเฉพาะบริษัทเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ความจริงก็คือ การเปลี่ยนผ่านดิจิทัลไม่ใช่รายวิชาเลือก แต่เป็นตั๋วเข้าสู่เกมการเอาตัวรอด!
ลองนึกภาพดูว่า ใบลาที่เคยใช้เวลาสามวันกว่าจะผ่านการอนุมัติ ตอนนี้ใช้เวลาเพียงสามนาทีก็เสร็จเรียบร้อย ลูกค้ามีความต้องการเร่งด่วนตอนห้าโมงเย็น ทีมงานสามารถส่งแผนงานให้ได้ภายในหกโมงเย็น — นี่ไม่ใช่ความฝัน แต่คือ "ความมหัศจรรย์ด้านประสิทธิภาพ" ที่เกิดจากการเปลี่ยนผ่านดิจิทัล มันช่วยลดงานซ้ำซ้อน ลดต้นทุนการดำเนินงาน และทำให้คุณคว้าออร์เดอร์ได้ก่อนที่คู่แข่งจะยังยืนรออยู่หน้าเครื่องแฟกซ์
แต่อย่าเพิ่งดีใจไป เพราะเส้นทางการเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้ราบรื่นเสมอไป ขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีสูงจนเหมือนปีนเขาหิมาลัย ภาระด้านงบประมาณหนักจนทำให้คุณต้องนับเงินจนนอนไม่หลับทุกคืน ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อพนักงานได้ยินคำว่า "ระบบใหม่" ก็มักจะหน้าซีดกันเป็นแถว เหมือนต้องไปสอบวิชาไอทีซ่อมเสริม มีคนบอกว่า การเปลี่ยนผ่านดิจิทัลก็เหมือนสอนคุณยายใช้ FaceTime — ตั้งใจดีเต็มเปี่ยม แต่ระหว่างทางน้ำตาไหลพราก
อย่างไรก็ตาม หากเลือกเครื่องมือที่เหมาะสม ความท้าทายเหล่านี้สามารถกลายเป็นสะพานก้าวกระโดดได้ ต่อไปนี้ เราจะเปิดเผยอาวุธลับที่จะเปลี่ยนธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมจาก "ไดโนเสาร์ดิจิทัล" ให้กลายเป็น "สัตว์ร้ายทางเทคโนโลยี" — ติงติง (DingTalk) เตรียมตัวให้พร้อมหรือยัง? เส้นทางบินทะยานขึ้น กำลังเริ่มต้นที่นี่
ภาพรวมฟังก์ชันของติงติง
ยังคงส่งเอกสารด้วยเครื่องแฟกซ์ พึ่งการพูดปากเปล่าสั่งงาน และต้อง "ครบองค์ประชุมก่อนถึงจะเริ่มประชุมได้" อยู่อีกหรือ? ตื่นได้แล้ว บริษัทของคุณถูกกระแสดิจิทัลทิ้งห่างไปไกลแล้ว! แต่ไม่ต้องกังวล ติงติง เหมือนฮีโร่ดิจิทัลของคุณ ที่สามารถช่วยชีวิตวันทำงานที่กำลังจะพังทลายได้เพียงคลิกเดียว อย่าคิดว่ามันเป็นแค่เครื่องมือแชทธรรมดา เพราะมันคือมีดพกสวิสสำหรับการเปลี่ยนผ่านดิจิทัลของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม!
ลองนึกภาพดู: พนักงานส่งข้อความทันทีในกลุ่ม ผู้บริหารใช้ฟังก์ชันอ่านแล้ว/ยังไม่อ่าน ติดตามความคืบหน้าของงาน ไม่ต้องวิ่งไล่ถามว่า "เห็นข้อความหรือยัง" อีกต่อไป ส่วนการประชุม? เปิดวิดีโอคอล ทีมงานสาขาอื่นก็ปรากฏตัวบนหน้าจอทันที แม้แมวที่บ้านยังเช็คอินเร็วกว่าคุณอีก ระบบแชร์ไฟล์ก็ล้ำมาก ทุกสัญญาและใบเสนอราคาถูกจัดเก็บไว้บนคลาวด์ หมดปัญหาคดีลึกลับระดับชาติอย่าง "ใครเอาเอกสารไป?"
ระบบจัดการตารางนัดเตือนการประชุมอัตโนมัติ แม้แต่ผู้จัดการหวังที่มักลืมเรื่องงาน ก็เริ่มมาตรงเวลา ที่เจ๋งที่สุดคือระบบเวิร์กโฟลว์อัตโนมัติ — การลา การเบิกค่าใช้จ่าย การสั่งซื้อ ทั้งหมดดำเนินการผ่านระบบอนุมัติออนไลน์ ไม่ต้องวิ่งไล่เก็บลายเซ็นจนหมดแรง ฟังก์ชันเหล่านี้ไม่ใช่แค่การโชว์ความสามารถ แต่คือการยกระดับองค์กรจาก "การบริหารด้วยคน" สู่ "การบริหารด้วยระบบ" ทำให้การทำงานร่วมกันไม่ต้องพึ่งโชค แต่พึ่งกระบวนการที่ชัดเจน ต่อไปก็ขึ้นอยู่กับคุณแล้วว่าจะเปลี่ยนมีดพกสวิสนี้ ให้กลายเป็นดาบมังกรแห่งดิจิทัลได้อย่างไร!
วิธีใช้ติงติงเพื่อการเปลี่ยนผ่านดิจิทัล
ยังคิดว่าการเปลี่ยนผ่านดิจิทัลคือการซื้อซอฟต์แวร์สักสองสามชุด เปิดบัญชีใช้งานไม่กี่บัญชีหรือ? ตื่นได้แล้วเพื่อน! การเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง คือการเปลี่ยนผ่านอย่างงดงามจาก "การบริหารด้วยคน" ไปสู่ "การบริหารด้วยระบบ" และติงติงก็คือ "กางเกงในฮีโร่ดิจิทัล" ของคุณ — มองไม่เห็นจากภายนอก แต่พอใส่แล้วเดินไปไหนก็รู้สึกมั่นใจ!
ขั้นตอนแรก อย่าเพิ่งรีบสร้างกลุ่มแล้วส่งอั่งเปา ให้เริ่มจากการจัดโครงสร้างองค์กรใหม่ ตั้งค่าแผนก ตำแหน่งงาน และสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลในติงติงให้ชัดเจน เพื่อให้ทุกคนรู้ว่า "ฉันคือใคร ต้องทำอะไร และสามารถเข้าถึงข้อมูลอะไรได้บ้าง" เหมือนการสแกนร่างกายองค์กรทั้งหมด ใครขยันจริง ใครแอบเล่นงาน มองเห็นได้ชัดเจน
ต่อมา วางกลยุทธ์ดิจิทัล ของคุณ — ไม่ใช่แค่เขียนพรีเซนเทชันส่งๆ ไป แต่ต้องวางแผนอย่างจริงจังว่า กระบวนการใดควรย้ายมาอยู่บนติงติง? การเบิกเงิน? การเช็คอิน? การอนุมัติงาน? โยนแบบฟอร์มกระดาษทั้งหมดลงถังขยะ แล้วใช้ระบบเวิร์กโฟลว์อัตโนมัติแทนความทุกข์ทรมานจากการ "รอลายเซ็นเจ้านายจนดอกไม้ร่วง"
อย่าลืมว่า แม้เครื่องมือจะดีแค่ไหน ก็ยังต้องเผชิญกับ "โรคกลัวเทคโนโลยีของพนักงานรุ่นเก่า" จัดสัมมนาเล็กๆ ที่เป็นกันเองเกี่ยวกับติงติง โดยใช้แรงจูงใจอย่าง "วิธีดูใบลาของเจ้านายก่อนใคร" เพื่อให้ทุกคนเรียนรู้ด้วยความสนุกสนาน สุดท้าย ใช้ข้อมูลพูดแทน — ตรวจสอบรายงานการใช้งาน เป็นประจำ ใครใช้งานบ่อย ใครเงียบหายไป การติดตามความคืบหน้าของการเปลี่ยนแปลงจะชัดเจนมาก แทนที่จะเรียกว่าเป็นการอัปเกรดเทคโนโลยี อาจเรียกได้ว่าเป็น "การปฏิวัติอย่างนุ่มนวล" ต่อวัฒนธรรมองค์กรมากกว่า
ตัวอย่างความสำเร็จของติงติง
- คุณคิดว่ามีแต่องค์กรใหญ่เท่านั้นที่จะปรับตัวดิจิทัลได้สำเร็จหรือ? ผิดแล้ว! ติงติง กลายเป็น "ชีทโค้ดดิจิทัล" ของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมมานานแล้ว และยังมีหลายรายที่พลิกสถานะสำเร็จ จนเหมือนพ่อค้าบ้านนอกกลายเป็นคนฮิปสุดๆ ด้านเทคโนโลยี!
- อย่างเช่น โรงงานพิมพ์แบบดั้งเดิมแห่งหนึ่ง ที่เจ้าของเดิมไม่รู้เลยว่า "คลาวด์" คือที่ล้างผ้าหรือที่จัดเก็บข้อมูล หลังจากนำติงติงมาใช้ ทุกอย่างตั้งแต่การติดตามคำสั่งซื้อ ความคืบหน้าการผลิต ไปจนถึงการเช็คอินของพนักงาน ล้วนอยู่ในมือถือหมดแล้ว เจ้าของพูดด้วยความดีใจว่า "ก่อนหน้านี้ต้องตะโกนสามครั้งถึงจะมีคนตอบ ตอนนี้ข้อความอ่านแล้วไม่ตอบ? ฉันก็ส่งแจ้งเตือนถึงในฝันเขาเลย!"
- อีกกรณีหนึ่งคือร้านขนมหวานเครือข่าย ที่สาขาตั้งอยู่คนละพื้นที่ ทำให้การจัดการเหมือน "ปล่อยให้แกะกินหญ้า" หลังจากใช้กระบวนการอนุมัติและการมอบหมายงานของติงติง ผู้จัดการใหญ่แค่แตะนิ้วเดียว ขั้นตอนการเปิดตัวสินค้าใหม่ก็ถูกส่งต่อโดยอัตโนมัติ ข้อมูลสต็อกก็อัปเดตพร้อมกันทุกที่ การจัดตารางงานพนักงานก็ฉลาดขึ้น ทำให้เจ้าของลดเวลาทำงานล่วงเวลาจากสัปดาห์ละ 30 ชั่วโมง เหลือแค่สัปดาห์ละ 3 ชั่วโมงสำหรับดื่มชาน้ำชายามบ่าย
- ยิ่งกว่านั้น บริษัทส่งออกขนาดเล็กแห่งหนึ่งใช้ติงติงผสานการสื่อสารข้ามประเทศ การแปลเอกสาร และการบันทึกการประชุม ลูกค้าที่ยุโรปหลับอยู่ ทางบริษัทใช้บอทตอบอัตโนมัติในติงติง พอตื่นเช้ามา เห็นว่าออร์เดอร์ถูกเซ็นเรียบร้อยแล้ว — แทบจะเป็น "รูปแบบใหม่ของการทำเงินขณะนอนหลับ" เลยทีเดียว!
- เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่นิทาน แต่เป็นปาฏิหาริย์การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจริงในตรอกข้างๆ คุณ จุดร่วมของพวกเขาก็คือ ไม่กลัวที่จะเริ่มต้นจากศูนย์ และกล้าใช้ติงติง เปลี่ยนความยุ่งเหยิงให้เป็นระบบ และเปลี่ยนแรงงานให้กลายเป็นขีดความสามารถ
แนวโน้มในอนาคตและการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
การเปลี่ยนผ่านดิจิทัลไม่ใช่การวิ่งสปรินท์ 100 เมตร แต่คือการวิ่งมาราธอน ที่แผนที่อาจอัปเดตตลอดเวลา เส้นทางอาจเปลี่ยน หรือแม้แต่มีเป็ดดิจิทัลโผล่มาขวางทางกลางทาง! แต่ไม่ต้องกังวล ติงติง ไม่ใช่แค่รองเท้าวิ่งของคุณ แต่ยังเป็นทั้งเครื่องนำทางและจุดพักรับน้ำ แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงในอนาคต ไม่ได้หยุดอยู่แค่ "การใช้ระบบ" เท่านั้น — การจัดตารางอัตโนมัติด้วย AI การลงเวลาทำงานอัจฉริยะ การวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ หรือแม้แต่การใช้แชทบอทจัดการเรื่องการเบิกเงิน ได้กลายเป็นเรื่องปกติของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแล้ว แทนที่จะถามว่า "ควรเปลี่ยนแปลงไหม" ควรจะถามว่า "วันนี้เราสามารถปรับปรุงอะไรได้อีกก้าวหนึ่ง?"
อย่าให้ทีมงานหยุดอยู่แค่ "ใช้ติงติงเช็คอินได้" แล้วรู้สึกพอใจ ผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริงจะ "อัปเกรดเงียบๆ" อยู่เสมอ ทุกไตรมาสควรทบทวนกระบวนการอีกครั้งว่า มีการกรอกแบบฟอร์มซ้ำหรือไม่? การประชุมสามารถสร้างรายการสิ่งที่ต้องทำโดยอัตโนมัติได้ไหม? การอนุมัติเอกสารยังต้อง "รอเจ้านายตอบไลน์" อยู่หรือเปล่า? ความลับของการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง คือการมอง "ความยุ่งยาก" เป็นจุดบกพร่องของระบบ แล้วรีบแก้ไขทันที ที่สำคัญกว่านั้น คือส่งเสริมให้ทีมงานตั้งคำถาม "โง่ๆ" อย่าง "ทำไมเราไม่สามารถทำทั้งหมดด้วยการกดปุ่มเดียวได้?" เพราะคำถามเหล่านี้มักเป็นจุดเริ่มต้นของนวัตกรรม
สุดท้าย อย่าลืมจัดกิจกรรม "น้ำชายามดิจิทัล" เป็นประจำ เพื่อแบ่งปันฟีเจอร์ใหม่ๆ และแข่งขันกันว่าใครมีระบบอัตโนมัติที่ชาญฉลาดที่สุด การเปลี่ยนแปลงไม่ใช่โครงการครั้งเดียวจบ แต่คือจังหวะการหายใจขององค์กร — สูดเทคโนโลยีใหม่เข้ามา แล้วหายใจทิ้งนิสัยเก่าออกไป ตราบใดที่คุณยังคงวิ่งต่อไป ติงติงจะอยู่ข้างๆ คุณเสมอ พร้อมตะโกนว่า "สู้ๆ ด่านต่อไปรอคุณอยู่!"
บริษัท ดอมเทค เป็นผู้ให้บริการอย่างเป็นทางการของติงติงในฮ่องกง โดยให้บริการติงติงแก่ลูกค้าอย่างกว้างขวาง หากคุณต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้งานแพลตฟอร์มติงติง สามารถติดต่อพนักงานบริการลูกค้าออนไลน์ของเราได้โดยตรง หรือติดต่อผ่านทางโทรศัพท์ หรืออีเมล
Using DingTalk: Before & After
Before
- × Team Chaos: Team members are all busy with their own tasks, standards are inconsistent, and the more communication there is, the more chaotic things become, leading to decreased motivation.
- × Info Silos: Important information is scattered across WhatsApp/group chats, emails, Excel spreadsheets, and numerous apps, often resulting in lost, missed, or misdirected messages.
- × Manual Workflow: Tasks are still handled manually: approvals, scheduling, repair requests, store visits, and reports are all slow, hindering frontline responsiveness.
- × Admin Burden: Clocking in, leave requests, overtime, and payroll are handled in different systems or calculated using spreadsheets, leading to time-consuming statistics and errors.
After
- ✓ Unified Platform: By using a unified platform to bring people and tasks together, communication flows smoothly, collaboration improves, and turnover rates are more easily reduced.
- ✓ Official Channel: Information has an "official channel": whoever is entitled to see it can see it, it can be tracked and reviewed, and there's no fear of messages being skipped.
- ✓ Digital Agility: Processes run online: approvals are faster, tasks are clearer, and store/on-site feedback is more timely, directly improving overall efficiency.
- ✓ Automated HR: Clocking in, leave requests, and overtime are automatically summarized, and attendance reports can be exported with one click for easy payroll calculation.
Operate smarter, spend less
Streamline ops, reduce costs, and keep HQ and frontline in sync—all in one platform.
9.5x
Operational efficiency
72%
Cost savings
35%
Faster team syncs
Want to a Free Trial? Please book our Demo meeting with our AI specilist as below link:
https://www.dingtalk-global.com/contact

ภาษาไทย
English
اللغة العربية
Bahasa Indonesia
Bahasa Melayu
Tiếng Việt
简体中文 