
คุณคิดว่าการลงเวลาทำงานคือแค่กดแล้วได้ยินเสียง “ติ้ง” แล้วจบใช่ไหม? ผิด! ในโลกของ DingTalk การลงเวลาแต่ละครั้งเหมือนการแสดงเทคโนโลยีขนาดย่อม ลองจินตนาการว่าสมาร์ทโฟนของคุณคือสายลับที่ต้องแอบเข้าไป “เช็คอิน” ที่สำนักงานทุกวัน — และมันไม่ได้พึ่งดวง แต่ใช้ระบบระบุตำแหน่ง GPS, การตรวจจับ WiFi หรือแม้แต่สัญญาณบลูทูธ (Bluetooth Beacon) เป็น “รหัสลับดิจิทัล” เพื่อยืนยันตัวตน เหมือนตอนเข้าโรงหนังที่ต้องตรวจตั๋ว DingTalk จะตรวจสอบว่าคุณนั่งอยู่ใน “ที่นั่ง” สำนักงานจริงๆ หรือไม่
การลงเวลาแบบประจำสถานที่ ก็เหมือนคุณต้องแตะบัตรผ่านประตูบ้านทุกวัน ส่วนการลงเวลาของพนักงานนอกสถานที่ ก็คล้ายชาวเร่ร่อน ไปที่ไหนก็สามารถรายงานตัวได้ โดยอาศัยเส้นทางเคลื่อนที่และตำแหน่งแบบเรียลไทม์ ส่วนการลงเวลาแบบยืดหยุ่น? คือของขวัญสำหรับคนที่ชื่นชอบอิสระ ขอแค่อยู่ในช่วงเวลาที่กำหนดไว้ก็พอ ความแตกต่างของแต่ละโหมด แท้จริงแล้วสะท้อนถึงการบริหารและการวางใจขององค์กร
ทำไมบริษัททั่วประเทศจีนเกือบทุกแห่งต่างใช้ DingTalk? เพราะมันไม่เพียงแต่แม่นยำ แต่ยังเข้าใจกฎระเบียบ ระบบสามารถบันทึกข้อมูลโดยอัตโนมัติ ทำให้เป็นไปตามข้อกำหนดแรงงาน ป้องกันปัญหาโต้แย้งในอนาคตอย่าง “ผมลงเวลาแล้วนะ!” ครั้งต่อไปที่คุณกดปุ่มลงเวลา อย่าลืมว่านั่นไม่ใช่แค่เสียง “ติ้งต่อง” แต่คือการรวมตัวกันอย่างสมบูรณ์ของเทคโนโลยีและระบบระเบียบ
สิ่งจำเป็นสำหรับฝ่ายธุรการ คู่มือสร้างกฎการลงเวลาทำงานของบริษัทแบบขั้นตอนต่อขั้นตอน
เหล่าฮีโร่ฝ่ายธุรการและ HR ทั้งหลาย เตรียมพร้อมจะโบกดาบดิจิทัลของคุณเพื่อสร้างถนนสายแรกของการลงเวลาบนหลังบ้านของ DingTalk หรือยัง? อย่ารีบร้อน การสร้างกลุ่มลงเวลานั้นไม่ใช่แค่กดปุ่มเดียวแล้วจะราบรื่น — คนที่ทำแบบนี้ มักจะกลายเป็นนักสืบดึกดื่นที่ต้องถามว่า “ทำไมเสี่ยวหมิงลงเวลาไม่ได้?”
ขั้นตอนแรก ให้เข้าสู่แผงผู้ดูแลระบบ แล้วเลือก “ตั้งค่าการลงเวลา” → “สร้างกลุ่มลงเวลาใหม่” อย่าเพิ่งรีบตั้งชื่อว่า “แผนกเก่งสุดในโลก” ก่อนอื่นต้องผูกโครงสร้างองค์กรให้ถูกต้อง! นี่คือจุดที่คนส่วนใหญ่มักพลาด: พนักงานหาทางเข้าร่วมกลุ่มไม่เจอ สุดท้ายพบว่าเจ้านายดึง “แผนกการเงิน” ไปใส่ผิดเป็น “กลุ่มนักศึกษาฝึกงานการตลาด” ได้โปรด โครงสร้างองค์กรไม่ใช่ตัวต่อเลโก้ ต่อผิดแล้วพังแน่นอน
จากนั้นตั้งปฏิทินการทำงาน แยกแยะระหว่างวันจันทร์ถึงศุกร์ หรือกะงานหมุนเวียน ตั้งเวลาเข้า-ออกงานให้ละเอียดถึงนาที อย่าลืมติ๊ก “อนุญาตให้มีเวลาแบบยืดหยุ่น” เพื่อให้พนักงานที่มาเร็วหรือทำงานดึกได้รับความเมตตา การตั้งวิธีลงเวลา แนะนำให้เลือก “โหมดผสม WiFi + GPS” เพื่อป้องกันเพื่อนร่วมงานยืนอยู่หน้าประตูสำนักงานแล้วสลับแอปเพื่อดึงตำแหน่งอย่างสิ้นหวัง รัศมีการลงเวลาควรถูกตั้งไว้ไม่เกิน 800 เมตร หากตั้งกว้างเกินไปจะกลายเป็นลงเวลาได้ทั้งเขต ส่วนถ้าแคบเกินไป แม้แต่ห้องน้ำก็อาจลงเวลาไม่ได้
อย่าลืมเปิดใช้งาน “เตือนการมาสายหรือเลิกงานก่อนเวลาโดยอัตโนมัติ” ให้ระบบทำหน้าที่เป็นเลขาฯ จอมโหด และตั้งเส้นทางอนุมัติการล่วงเวลาและการขอลงเวลาแทนให้เรียบร้อย มิฉะนั้นสิ้นเดือนจะมีคนมาร้องขอให้ลงเวลาแทนจนคุณอยากลบแอปทิ้ง
ท้ายที่สุดนี้ ขอเสนอรายการตรวจสอบ: โครงสร้างองค์กร ✓, การตั้งเวลา ✓, วิธีลงเวลา ✓, รัศมีพื้นที่ ✓, การเปิดเตือน ✓, กระบวนการอนุมัติ ✓ หากลืมแม้แต่ข้อเดียว ระวังว่าสัปดาห์หน้าคุณอาจปรากฏตัวในช่อง YouTube ชื่อ “บันทึกภัยพิบัติบน DingTalk”
คู่มือสำหรับพนักงาน 5 เคล็ดลับลงเวลาโดยไม่สะดุด
สงครามการลงเวลา "ติ้งต่อง" วันนี้คุณ "ติ้ง" หรือยัง? อย่าคิดว่าแค่ฝ่ายธุรการตั้งค่ากลุ่มลงเวลาเรียบร้อยแล้วจะเรียบร้อยทุกอย่าง พนักงานอย่างคุณต่างหากที่คือแนวหน้าในการ “ต่อสู้” กับ DingTalk ทุกวัน! อยากหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ “คนอยู่ในห้องน้ำบริษัทแล้วสามรอบ แต่ลงเวลาไม่สำเร็จ” ใช่ไหม? รีบจด 5 เคล็ดลับนี้ไว้เลย!
เคล็ดลับข้อ 1: ผูกกลุ่มลงเวลาครั้งแรก — อย่ารอให้ระบบเพิ่มอัตโนมัติ! เปิด DingTalk ไปที่ “หน้าการทำงาน” → “ลงเวลาทำงาน” แล้วตรวจสอบว่าคุณถูกจัดเข้ากลุ่มที่ถูกต้องหรือยัง ถ้าแสดงว่า “ยังไม่ได้เข้าร่วม” รีบติดต่อ HR ทันที มิฉะนั้นไม่ว่าคุณจะกดกี่ครั้ง ระบบก็จะมองว่าคุณแค่มาดูเล่น
เคล็ดลับข้อ 2: ต้องเปิดสิทธิ์การระบุตำแหน่ง! ผู้ใช้ iOS โดยเฉพาะควรระวัง DingTalk อาจตั้งค่าเริ่มต้นเป็น “อนุญาตเมื่อใช้งานเท่านั้น” ทำให้เมื่อล็อกหน้าจอแล้วแอปจะไม่สามารถระบุตำแหน่งได้ ให้เข้าไปตั้งค่าใหม่เป็น “ตลอดเวลา” มิฉะนั้นคุณอาจยืนอยู่หน้าสำนักงานเหมือนรูปปั้น แต่ GPS กลับโยนคุณไปป้อนขนมให้นกที่สวนข้างๆ
เคล็ดลับข้อ 3: ทำความเข้าใจพื้นที่ลงเวลาที่ถูกต้อง — อย่าพยายามแอบลงเวลาจากเซเว่นใต้ตึก! DingTalk ใช้ GPS หรือ WiFi ตรวจสอบตำแหน่ง หากบริษัทตั้งรัศมี 100 เมตร การยืนอยู่ขอบๆ แล้วกระโดดไปมาอาจทำให้ระบบแจ้งว่า “อยู่นอกพื้นที่” แนะนำให้ครั้งแรกลองเดินเข้าไปใกล้ๆ ยืนยันว่ามีเครื่องหมายถูกสีเขียวขึ้นก่อนค่อยจากไป
เคล็ดลับข้อ 4: รับมือกับข้อความ “ลงเวลาไม่สำเร็จ” — ทั้งเน็ตช้า ตำแหน่งลอย ใครๆ ก็เคยเจอ ให้เริ่มจากการรีสตาร์ทแอป เปลี่ยนระหว่าง Wi-Fi กับข้อมูลมือถือ หรือลากหมุดตำแหน่งบนแผนที่ไปยังจุดที่ถูกต้องเอง หากยังไม่ได้ผล อย่าฝืน ให้รีบขอลงเวลาแทนทันที!
เคล็ดลับข้อ 5: ใช้ประโยชน์จากสิทธิ์ขอลงเวลาแทนและการตรวจสอบประวัติ — โดยปกติแต่ละเดือนมีสิทธิ์ขอลงเวลาแทน 3 ครั้ง อย่าใช้เปลืองกับวันที่นอนหลับลืมตื่น ควรตรวจสอบ “รายละเอียดการลงเวลา” เป็นประจำ หากพบความผิดปกติให้ดำเนินการแก้ไขทันที จำไว้: มาสายไม่ใช่เรื่องน่าอาย แต่การลงเวลาไม่ได้แล้วยังทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ต่างหากที่น่ากลัว!
เทคนิคขั้นสูง ทำให้การจัดการลงเวลานั้นชาญฉลาดและมนุษย์มากขึ้น
อย่าคิดว่าระบบลงเวลาของ DingTalk มีเพียงแค่ “กดปุ่ม ลงเวลา” แบบเรียบง่าย! เมื่อคุณเชี่ยวชาญการใช้งานพื้นฐานแล้ว ก็ถึงเวลาปลดล็อกโหมดขั้นสูง เพื่อให้ระบบการลงเวลาไม่เย็นชา แต่กลายเป็นเหมือนผู้ช่วย AI ที่เข้าใจคุณและเอาใจใส่ ลองจินตนาการ: เสี่ยวเหม่ย จากแผนกการตลาดส่งลูกไปโรงเรียนก่อนแล้วค่อยมาทำงาน แต่ยังคงอยู่ในช่วงเวลาหลัก; ทีมวิศวกรรมสลับกะสามรอบ แต่ระบบจัดตารางให้อัตโนมัติ — นี่ไม่ใช่ความฝัน ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้ด้วยการตั้งค่าชั่วโมงทำงานแบบยืดหยุ่น และกฎการจัดตารางอัตโนมัติ เพียงแค่ผู้ดูแลระบบตั้งค่า “ช่วงเวลาหลัก 9:30–16:30 โดยมีช่วงเวลาเข้า-ออกงานยืดหยุ่นได้หนึ่งชั่วโมง” ระบบจะคำนวณการเข้าทำงานที่ถูกต้องให้อัตโนมัติ คุณจะไม่ต้องแสดงฉากดราม่ากับเจ้านายเพราะ “มาสายห้านาที” อีกต่อไป
พนักงานที่ทำงานทางไกลก็ไม่ถูกละเลยอีกต่อไป รองรับการลงเวลาหลายสถานที่ ทำให้คุณสามารถลงเวลาได้อย่างถูกต้องไม่ว่าจะอยู่ที่บ้าน หน้างานลูกค้า หรือร้านกาแฟ เพียงแค่ตั้งค่าพื้นที่ที่ยอมรับได้หลายจุด ที่ยอดเยี่ยมกว่านั้นคือ เมื่อคุณยื่นคำร้องขอลา ระบบการลงเวลาจะยกเว้นให้อัตโนมัติ เชื่อมต่อกับระบบการขอลา ช่วยหลีกเลี่ยงการอนุมัติซ้ำ HR ไม่ต้องกลายเป็นเครื่องเปรียบเทียบข้อมูลด้วยมือ อีกอย่างหลังเลิกงาน อย่าเพิ่งปิดคอมพิวเตอร์ ให้เปิดรายงานข้อมูลการลงเวลา แล้วคุณจะเห็นทันทีว่าแผนกไหนมีอัตราการมาสายสูงที่สุดในวันจันทร์ อาจเกิดจากปัญหาการเดินทาง หรืออาจเป็นวัฒนธรรมองค์กรที่หย่อนยาน — ข้อมูลพูดแทนได้ การบริหารจึงมีอารมณ์ความรู้สึก จำไว้: ระบบต้องเข้มงวด แต่การปฏิบัติควรเปิดช่องให้หายใจ การลงเวลาไม่ใช่การเช็คอินในคุก แต่คือเครื่องนำทางที่ช่วยให้ทีมก้าวไปได้ไกลยิ่งขึ้น
สถานการณ์วิกฤตทั่วไปและชุดแก้ปัญหาฉุกเฉิน
การลงเวลาทุกวันเหมือนกำลังเล่น “เกมล่าสมบัติ”? ปุ่มกดสีเทา ระบุตำแหน่งไม่ได้ ขอลงเวลาแทนกลับโดนปฏิเสธ… อย่าสงสัย คุณไม่ใช่คนเดียวที่คลานผ่านสนามเพลมินของ DingTalk ด้วยความยากลำบาก อย่ากลัว บทความนี้คือ “ชุดปฐมพยาบาลวิกฤต” ของคุณ!
ปัญหาที่ 1: ปุ่มลงเวลากลายเป็นสีเทาจนสว่าง? เริ่มต้นด้วยวิธีตรวจสอบ 3 ขั้นตอน! 1) ตรวจสอบว่าอินเทอร์เน็ตทำงานหรือไม่ GPS เปิดหรือยัง และแอปมีเวอร์ชันเก่าจนค้างหรือเปล่า (รีบอัปเดต!) 2) ถามผู้ดูแลระบบว่าคุณถูกเพิ่มเข้ากลุ่มลงเวลาที่ถูกต้องหรือยัง บางครั้งพนักงานใหม่ “ร่วงลงมาจากฟ้า” แต่ไม่ได้ถูกเพิ่มเข้าระบบ 3) ลองสลับระหว่าง Wi-Fi กับข้อมูลมือถือ หรือถึงขั้นติดตั้งแอปใหม่ วิธีนี้เร็วกว่าการร้องขอความช่วยเหลือจากแผนกไอที
ยืนอยู่หน้าประตูบริษัทชัดๆ แต่ระบบบอกว่าคุณอยู่บนดวงจันทร์? 1) ตรวจสอบว่าให้สิทธิ์การระบุตำแหน่งกับ DingTalk ครบถ้วนหรือยัง อย่าปล่อยให้มัน “ตาบอด” 2) ยืนยันว่ารัศมีพื้นที่ลงเวลาที่ผู้ดูแลตั้งไว้นั้นเพียงพอหรือไม่ บางครั้งแค่ 50 เมตรก็มีผลมาก 3) ลองเลือกตำแหน่งลงเวลาด้วยตนเอง หรือให้ผู้ดูแลปรับพิกัดตำแหน่งเล็กน้อย
การขอลงเวลาแทนเหมือนส่งจดหมายไปในอากาศ? 1) ตรวจสอบว่าผู้อนุมัติที่คุณเลือกยังทำงานอยู่และมีสิทธิ์อนุมัติ 2) ดูว่าส่งซ้ำหรือใส่วันที่ผิดหรือไม่ 3) ไปที่ประวัติการอนุมัติแล้วทิ้งข้อความตามงาน วิธีนี้มีประสิทธิภาพกว่าการนั่งรอเฉยๆ สุดท้ายนี้ เตือนอีกครั้ง: อัปเดตแอปและระบบเป็นประจำ มิฉะนั้นไม่ว่าฟีเจอร์ใหม่จะเจ๋งแค่ไหน คุณก็ใช้ไม่ได้อยู่ดี!
We dedicated to serving clients with professional DingTalk solutions. If you'd like to learn more about DingTalk platform applications, feel free to contact our online customer service or email at
Using DingTalk: Before & After
Before
- × Team Chaos: Team members are all busy with their own tasks, standards are inconsistent, and the more communication there is, the more chaotic things become, leading to decreased motivation.
- × Info Silos: Important information is scattered across WhatsApp/group chats, emails, Excel spreadsheets, and numerous apps, often resulting in lost, missed, or misdirected messages.
- × Manual Workflow: Tasks are still handled manually: approvals, scheduling, repair requests, store visits, and reports are all slow, hindering frontline responsiveness.
- × Admin Burden: Clocking in, leave requests, overtime, and payroll are handled in different systems or calculated using spreadsheets, leading to time-consuming statistics and errors.
After
- ✓ Unified Platform: By using a unified platform to bring people and tasks together, communication flows smoothly, collaboration improves, and turnover rates are more easily reduced.
- ✓ Official Channel: Information has an "official channel": whoever is entitled to see it can see it, it can be tracked and reviewed, and there's no fear of messages being skipped.
- ✓ Digital Agility: Processes run online: approvals are faster, tasks are clearer, and store/on-site feedback is more timely, directly improving overall efficiency.
- ✓ Automated HR: Clocking in, leave requests, and overtime are automatically summarized, and attendance reports can be exported with one click for easy payroll calculation.
Operate smarter, spend less
Streamline ops, reduce costs, and keep HQ and frontline in sync—all in one platform.
9.5x
Operational efficiency
72%
Cost savings
35%
Faster team syncs
Want to a Free Trial? Please book our Demo meeting with our AI specilist as below link:
https://www.dingtalk-global.com/contact

ภาษาไทย
English
اللغة العربية
Bahasa Indonesia
Bahasa Melayu
Tiếng Việt 