
คุณเคยเจอไหม เวลาที่ต้องการหาเบอร์โทรของเพื่อนร่วมงานในบริษัท แต่กลับต้องควานหาในรายชื่อผู้ติดต่อในมือถือ อีเมล หรือแม้แต่ถามคนนี้ทีคนนั้นที กว่าจะเจอ? ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป เพราะ ไดเรกทอรีบริษัทของ DingTalk คือฮีโร่ผู้มาช่วยคุณในสถานการณ์อันน่าอับอายเหล่านี้ มันไม่ใช่แค่รายการ "ชื่อ + เบอร์โทร" ธรรมดา แต่เป็นแผนที่ทางสังคมขององค์กรที่มีชีวิตชีวา ลองนึกภาพดูว่า ทุกคนในบริษัท จากผู้บริหารระดับสูงสุด ไปจนถึงพนักงานฝึกงาน ตำแหน่ง แผนก เบอร์ต่อใน ที่อยู่อีเมล หรือแม้แต่เลขที่นั่งทำงาน ล้วนอยู่ในมือถือของคุณอย่างเป็นระบบ แค่แตะครั้งเดียวก็สามารถส่งข้อความ โทรออก หรือส่งอีเมลได้ รวดเร็วกว่าการสั่งอาหารเสียอีก!
ไดเรกทอรีนี้ไม่ใช่สมุดรายชื่อกระดาษที่ตายตัว แต่เป็นระบบอัจฉริยะที่ซิงค์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ เมื่อมีพนักงานใหม่เข้ามา แค่ผู้ดูแลระบบตั้งค่าเพียงครั้งเดียว ทุกคนในบริษัทจะเห็นชื่อของคนใหม่ทันที ไม่จำเป็นต้องส่งอีเมลประกาศว่า "นี่คือเพื่อนร่วมงานคนใหม่ของเรา" อีกต่อไป ที่เจ๋งกว่านั้นคือ ระบบรองรับโครงสร้างแผนกแบบต้นไม้ (Tree Structure) ทำให้แผนกการตลาดไม่ไปโผล่ในกลุ่มพัฒนาสินค้าโดยไม่ตั้งใจ โครงสร้างชัดเจนเป็นลำดับชั้นเหมือนละคร宮鬥 และยังสามารถควบคุมสิทธิ์การเข้าถึงได้อย่างละเอียด — ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถดูเบอร์ส่วนตัวของผู้บริหารระดับสูงได้ ช่วยทั้งการรักษาความเป็นส่วนตัวและรักษาความเรียบร้อยขององค์กร
ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้น ไดเรกทอรีนี้ผสานรวมกับฟีเจอร์อื่น ๆ ของ DingTalk ได้อย่างไร้รอยต่อ ต้องการนัดประชุม? แค่เลือกชื่อจากไดเรกทอรีแล้วสร้างกลุ่มใหม่ทันที ต้องการส่งประกาศ? กดเลือกทั้งแผนกได้ในคลิกเดียว นี่ไม่ใช่แค่ไดเรกทอรีธรรมดา แต่คือศูนย์กลางการสื่อสารขององค์กร!
เริ่มใช้งานอย่างรวดเร็ว: ตั้งค่าไดเรกทอรีบริษัทของคุณใน DingTalk
เพิ่งเข้าใจว่าไดเรกทอรีบริษัทของ DingTalk คืออะไรใช่ไหม? อย่าเพิ่งรีบ ตอนนี้เราจะพาคุณเริ่มต้นใช้งานอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ก่อนอื่น เปิดหน้าหลังบ้านการจัดการของ DingTalk แล้วคลิกเข้าไปที่ "การจัดการไดเรกทอรี" เหมือนกับการเปิดกุญแจประตูบริษัท ภารกิจแรกที่รอคุณอยู่คือการเพิ่มพนักงาน คุณสามารถพิมพ์ชื่อทีละคน แต่วิธีที่ฉลาดกว่าคือใช้ฟีเจอร์ "เพิ่มแบบกลุ่ม" ซึ่งช่วยนำพนักงานทั้งบริษัทเข้าระบบพร้อมกันในครั้งเดียว ประหยัดเวลาและแรงงาน ราวกับใช้เครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดพรม — สะอาด รวดเร็ว และหมดจด!
ขั้นตอนต่อไปคือการจัดกลุ่มแผนก อย่าปล่อยให้ทุกคนวิ่งไปมาแบบไม่มีทิศทาง สร้างแผนกและแผนกย่อยตามโครงสร้างองค์กรจริง เช่น ภายใต้ "แผนกการตลาด" แบ่งย่อยเป็น "ทีมเนื้อหา" และ "ทีมออกแบบ" ชัดเจนเป็นลำดับชั้น ทำให้การสื่อสารแม่นยำตรงจุด อย่าลืมตั้งชื่อให้ชัดเจน อย่าใช้ชื่ออย่าง "กลุ่มชั่วคราว (ฉบับสุดท้าย 2)" ที่ทำให้คนอื่นอ่านแล้วรู้สึกงง
การตั้งค่าสิทธิ์การเข้าถึงคือหัวใจสำคัญ! ผู้ดูแลระบบสามารถกำหนดได้ว่าใครสามารถดูรายชื่อทั้งบริษัท ใครสามารถดูได้เฉพาะแผนกตนเอง เช่น ฝ่ายบุคคลสามารถดูข้อมูลทุกคนได้ แต่พนักงานฝึกงานอาจเห็นได้เฉพาะหัวหน้าโดยตรงเท่านั้น วิธีนี้ช่วยทั้งการปกป้องความเป็นส่วนตัวและป้องกันการใช้ข้อมูลเกินความจำเป็น เคล็ดลับเล็ก ๆ : ควรทบทวนสิทธิ์การเข้าถึงเป็นประจำ เหมือนการล้างตู้เสื้อผ้า ลบสิทธิ์ที่ไม่จำเป็นออก เพื่อให้ระบบปลอดภัยยิ่งขึ้น
สุดท้าย อย่าลืมส่งเสริมให้พนักงานกรอกข้อมูลส่วนตัวให้ครบถ้วน ใส่รูปโปรไฟล์และตำแหน่งงาน ทำให้ไดเรกทอรีไม่ใช่แค่รายชื่อที่เย็นชา แต่กลายเป็นแผนที่ทีมงานที่มีชีวิตชีวา!
ฟีเจอร์ขั้นสูง: ทำให้ไดเรกทอรีทรงพลังยิ่งกว่าเดิม
ใครบอกว่าไดเรกทอรีมีไว้แค่ "เช็คเบอร์โทร"? ในโลกของ DingTalk ไดเรกทอรีบริษัทคือผู้ช่วยอัจฉริยะที่ซ่อนความสามารถไว้อย่างล้ำลึก! ฟีเจอร์นำเข้าแบบกลุ่ม ทำให้คุณไม่ต้องพิมพ์ชื่อพนักงานทีละคนอีกต่อไป เพียงอัปโหลดไฟล์ Excel ก็สามารถเพิ่มข้อมูลพนักงานได้ร้อยกว่าคนภายในไม่กี่วินาที แม้แต่นักศึกษาฝึกงานอย่างเล็กหวังก็ใช้งานได้คล่อง จนเจ้านายเห็นแล้วยังต้องกดไลก์
ที่เจ๋งกว่านั้นคือการซิงค์ข้อมูลอัตโนมัติ — เมื่อฝ่ายบุคคลอัปเดตโครงสร้างองค์กรในระบบหลังบ้าน ไดเรกทอรีของทั้งบริษัทจะอัปเดตทันที หมดกังวลเรื่อง "ผู้อำนวยการกลายเป็นผู้จัดการ" แต่ยังเรียกตำแหน่งเดิมอยู่ ฟีเจอร์ค้นหาที่ทรงพลังยังช่วยให้คุณหาคนได้อย่างแม่นยำ ต้องการหา "คุณผู้หญิงจางที่อยู่แผนกการตลาดและชงกาแฟเก่ง"? พิมพ์ "การตลาด+กาแฟ" ผลลัพธ์ก็โผล่ทันที เหลือแค่ไม่แนบรูปภาพลาเต้อาร์ตที่เธอชงเท่านั้น!
ฟีเจอร์กรองข้อมูลก็เป็นทีมเวิร์กชั้นยอด สามารถกรองตามแผนก ตำแหน่ง หรือกลุ่มโครงการได้ในคลิกเดียว ตอนที่ต้องทำงานร่วมกับแผนกอื่น คุณสามารถหาผู้ติดต่อได้ใน 3 วินาที ช่วยให้การนัดประชุมรวดเร็ว แม่นยำ และตรงเป้า ยิ่งไปกว่านั้น ยังสามารถใช้ "แท็กอัจฉริยะ" ของ DingTalk สร้างหมวดหมู่เอง เช่น "กำลังเดินทาง" หรือ "สมาชิกหลักของโครงการ" เพื่อให้การสื่อสารแม่นยำราวกับระบบนำทาง
ฟีเจอร์ขั้นสูงเหล่านี้เหมือนกับ "ต้นไม้ทักษะลับ" ของไดเรกทอรี เมื่อคุณใช้งานครบทุกอย่าง ประสิทธิภาพการทำงานของคุณจะพุ่งสูงขึ้นราวกับโหมดขับเคลื่อนอัตโนมัติ
กรณีศึกษา: องค์กรใช้ไดเรกทอรีอย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างไร
คุณคิดว่าไดเรกทอรีมีไว้แค่โทรหาคนใช่ไหม? คุณประเมินค่าไดเรกทอรีของ DingTalk ต่ำไปแล้ว! บริษัทอีคอมเมิร์ซชื่อดังแห่งหนึ่งเคยประสบปัญหาประสิทธิภาพการทำงานร่วมกันระหว่างแผนกล้มเหลว ทำให้การประชุมโครงการมักจะ "คนมา แต่ใจไม่มา" หลังจากที่พวกเขาได้นำโครงสร้างองค์กรทั้งหมดมาใส่ในไดเรกทอรีของ DingTalk พร้อมกับใช้แท็กแผนกและการจัดหมวดหมู่ตามหน้าที่ ปรากฏว่าเกิดสิ่งมหัศจรรย์ขึ้น — เวลาที่ใช้ในการสร้างกลุ่มโครงการลดลงถึง 70% แม้แต่พนักงานธุรการก็สามารถหาพนักงานไอทีเพื่อขอความช่วยเหลือได้ในวินาทีเดียว ไม่ต้องตะโกนถามในสามกลุ่มว่า "มีใครอยู่ไหม?" อีกต่อไป
อีกหนึ่งบริษัทออกแบบขนาดกลาง ที่มีอัตราการเปลี่ยนแปลงพนักงานสูง ทุกครั้งที่มีพนักงานใหม่เข้ามา พนักงานเก่าต้องจำชื่อใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่เปิดใช้ฟีเจอร์ "ซิงค์อัตโนมัติ" และ "อัปเดตแผนกล่าสุดแบบไดนามิก" ของไดเรกทอรี DingTalk พอพนักงานใหม่เริ่มงาน รูปโปรไฟล์ ตำแหน่ง และเบอร์ต่อจะขึ้นแสดงในระบบโดยอัตโนมัติ เหมือนมีผู้ช่วย HR ที่ทำงานอย่างเงียบ ๆ ให้บริษัท ที่เจ๋งกว่านั้นคือ พวกเขาใส่ข้อมูล "ทักษะที่เชี่ยวชาญ" ไว้ในช่องหมายเหตุของไดเรกทอรี ถ้าต้องการหาคนที่ทำอนิเมชันได้ ก็แค่ค้นหาคำว่า "AE" ผลลัพธ์ก็โผล่ทันที เร็วกว่าการค้นหาในสารานุกรมอีก!
คำแนะนำในการใช้งาน: อย่าใช้ไดเรกทอรีแค่เป็นสมุดโทรศัพท์ ควรใช้ "ช่องข้อมูลที่กำหนดเอง" ระบุบทบาทในโครงการหรือข้อมูลการเวร พร้อมกับใช้ฟีเจอร์ค้นหาอย่างรวดเร็ว เพื่อให้การสื่อสารไม่ "ติดขัดเพราะหาคนไม่เจอ" จำไว้ว่า ไดเรกทอรีที่ชาญฉลาด ดีกว่าการส่งการแจ้งเตือนในกลุ่มสิบกลุ่มเสียอีก!
คำถามที่พบบ่อยและการแก้ไขปัญหา
- ปัญหาที่ 1: ทำไมฉันถึงหาชื่อเพื่อนร่วมงานในไดเรกทอรีไม่เจอ?
อย่าเพิ่งตกใจ ก่อนอื่นตรวจสอบว่าคนนั้นได้เข้าร่วมองค์กรแล้วหรือยัง บางครั้งพนักงานใหม่ยังไม่ได้ดำเนินการเข้าทำงานให้เสร็จ หรือคุณอาจพิมพ์ชื่อผิด (เช่น พิมพ์ "จางเหว่ย" เป็น "จางเหว่ย" ด้วยตัวอักษรต่างกัน) อีกสาเหตุหนึ่งอาจเป็นเรื่องสิทธิ์การเข้าถึง — ผู้ดูแลระบบอาจตั้งค่าให้เห็นได้เฉพาะแผนกตนเอง ทำให้คุณไม่สามารถเห็นพนักงานแผนกอื่นได้ นี่ไม่ใช่ข้อผิดพลาดของระบบ แต่เป็น "การป้องกันความปลอดภัย" ที่คอยปกป้องความลับของบริษัท! - ปัญหาที่ 2: ฉันแก้ไขข้อมูลส่วนตัวแล้ว แต่คนอื่นยังเห็นข้อมูลเก่าอยู่?
ปกติแล้วข้อมูลใน DingTalk จะซิงค์แบบทันที แต่หากเกิดความล่าช้า คุณสามารถลองออกจากระบบแล้วเข้าใหม่ หรือตรวจสอบว่าคุณใช้งานหลายอุปกรณ์พร้อมกันหรือไม่ ซึ่งอาจทำให้เกิดข้อขัดแย้ง นอกจากนี้ บางช่องข้อมูลต้องได้รับการอนุมัติจากผู้ดูแลระบบก่อนจึงจะอัปเดตได้ อย่าเพิ่งหมดหวัง แค่กระบวนการยังอยู่ระหว่างดำเนินการเท่านั้น! - ปัญหาที่ 3: ไดเรกทอรีมีคนเยอะมาก แล้วจะหาผู้ติดต่อสำคัญได้อย่างไรให้เร็ว?
ใช้ฟีเจอร์ "ติดดาวผู้ติดต่อ" ได้เลย ใส่ชื่อเจ้านาย เลขา พนักงานไอที ลงไป แล้วเข้าถึงได้ทันทีเพียงคลิกเดียว หรือจะสร้างแท็กเอง เช่น "ทีมโครงการ A" หรือ "ทีมแบดมินตันวันศุกร์" เพื่อจัดกลุ่มให้เป็นระเบียบ การสื่อสารจะไม่ยุ่งเหยิงอีกต่อไป - ปัญหาที่ 4: เปลี่ยนมือถือแล้ว ข้อมูลในไดเรกทอรีจะหายไหม?
ไม่หาย! ขอแค่คุณล็อกอินด้วยบัญชี DingTalk เดิม ข้อมูลทั้งหมดจะซิงค์ผ่านคลาวด์ แม้แต่ข้อความหมายเหตุที่คุณจดไว้ว่า "เจ้านาย — ต้องพูดอย่างระวัง" ก็จะยังคงอยู่เหมือนเดิม
เป็นผู้ให้บริการอย่างเป็นทางการของ DingTalk ในฮ่องกง ให้บริการโซลูชัน DingTalk แก่ลูกค้าจำนวนมาก หากคุณต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้งานแพลตฟอร์ม DingTalk สามารถติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าออนไลน์ของเราได้โดยตรง หรือโทรติดต่อเราที่ หรือส่งอีเมลมาที่
Using DingTalk: Before & After
Before
- × Team Chaos: Team members are all busy with their own tasks, standards are inconsistent, and the more communication there is, the more chaotic things become, leading to decreased motivation.
- × Info Silos: Important information is scattered across WhatsApp/group chats, emails, Excel spreadsheets, and numerous apps, often resulting in lost, missed, or misdirected messages.
- × Manual Workflow: Tasks are still handled manually: approvals, scheduling, repair requests, store visits, and reports are all slow, hindering frontline responsiveness.
- × Admin Burden: Clocking in, leave requests, overtime, and payroll are handled in different systems or calculated using spreadsheets, leading to time-consuming statistics and errors.
After
- ✓ Unified Platform: By using a unified platform to bring people and tasks together, communication flows smoothly, collaboration improves, and turnover rates are more easily reduced.
- ✓ Official Channel: Information has an "official channel": whoever is entitled to see it can see it, it can be tracked and reviewed, and there's no fear of messages being skipped.
- ✓ Digital Agility: Processes run online: approvals are faster, tasks are clearer, and store/on-site feedback is more timely, directly improving overall efficiency.
- ✓ Automated HR: Clocking in, leave requests, and overtime are automatically summarized, and attendance reports can be exported with one click for easy payroll calculation.
Operate smarter, spend less
Streamline ops, reduce costs, and keep HQ and frontline in sync—all in one platform.
9.5x
Operational efficiency
72%
Cost savings
35%
Faster team syncs
Want to a Free Trial? Please book our Demo meeting with our AI specilist as below link:
https://www.dingtalk-global.com/contact

ภาษาไทย
English
اللغة العربية
Bahasa Indonesia
Bahasa Melayu
Tiếng Việt
简体中文 